ชวนมนุษย์เงินเดือนพิชิตเงินล้าน เพียง ลด – ละ – เลิก 6 นิสัยที่ทำให้เก็บเงินไม่อยู่

1126
0
Share:

มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจจะเคยเจอกับปัญหาเรื่องการออมเงิน เช่น ออมเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเป้าหมายสักที เงินไหลออกทุกเดือน นั่นอาจไม่ได้เป็นเพราะว่าเราเป็นคนเก็บเงินไม่เก่ง แต่บางครั้งเราอาจกำลังติดนิสัยหรือความเคยชินบางอย่าง

วันนี้  fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนมาลองสำรวจกันว่าคุณกำลังมี 6 นิสัยที่เป็นอุปสรรคในการออมเงินอยู่หรือไม่ และเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนชีวิตทางการเงินให้ดีขึ้นด้วยทริคง่าย ๆ

  1. เลิกใช้เงินก่อน แล้วออมทีหลัง

เงินเดือนเข้าบัญชีปุ๊บ ก็โอนออกไปใช้จ่ายปั๊บ เหลือเท่าไรค่อยนำมาเป็นเงินเก็บ ลองเปลี่ยนวิธีเป็นการออมเงินก่อนแล้วค่อยใช้ทีหลังแทน จะช่วยให้ออมเงินตามเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ควรกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละเดือนไว้ด้วย เพื่อสร้างความสม่ำเสมอ และทำจนเป็นนิสัย เช่น เมื่อเงินเดือนเข้า จะหัก 10% ของเงินเดือนมาเป็นเงินออมทันที เหลือเท่าไรค่อยนำไปใช้จ่าย หรือ สร้างนิสัยรักการออม โดยการหยอดกระปุกทุกวัน ๆ ละ 100 บาท เป็นต้น

  1. เลิกตามกระแส

ปัจจุบัน โซเชียลมีเดียเข้ามามีผลต่อนิสัยของมนุษย์เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคตกเป็นทาสการตลาด ช้อปจนอาจลืมคำนึงถึงความจำเป็น ทำให้บ่อยครั้งที่เรามักจะหมดเงินไปกับกระแสนิยม ดังนั้น ก่อนใช้จ่ายสิ่งใด ควรคำนึงถึงความจำเป็นก่อนเสมอ ซื้อของเพราะต้องใช้ ไม่ใช่เพราะของมันต้องมี

  1. เลิกก่อหนี้ โดยไม่จำเป็น

รูดไปก่อน ค่อยจ่ายทีหลัง เพื่อตัดปัญหาเหล่านี้จึงควรเลิกก่อหนี้โดยไม่จำเป็น และรู้จักบริหารเงินอย่างชาญฉลาด เช่น รูดบัตรเครดิตในจำนวนเงินที่ผ่อนไหว, ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เป็นต้น สามารถเลือกใช้บัตรเครดิตที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ได้มากยิ่งขึ้น เช่น บัตรเครดิตที่มีบริการแบ่งชำระค่าสินค้าและบริการ 0% ตามกำลังที่สามารถแบ่งจ่ายได้

  1. เลิกใช้เงินแบบไม่วางแผนอนาคต

หากประสบปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน หรือวางแผนทางการเงินไม่ดีพอ ลองหันมาทำรายการสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยจดบันทึกค่าใช้จ่ายรายวัน-รายสัปดาห์ รวมถึงการทำงบการเงินล่วงหน้าเพื่อประเมินรายรับ-รายจ่ายที่จะเกิดขึ้น จะช่วยให้บริหารเงินได้ดียิ่งขึ้น

  1. เลิกลงทุนโดยไม่ศึกษาให้รอบคอบ

ไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตาม ควรศึกษาให้ละเอียดด้วยตัวเอง โดยทำความเข้าใจ พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ วางแผนการลงทุนให้รอบด้าน หากต้องการคำแนะนำ ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

  1. เลิกเก็บเงินบัญชีเดียว

การใช้จ่าย และเก็บเงินในบัญชีเดียวกันนั้น อาจทำให้เผลอใช้เงินเก็บไปโดยไม่รู้ตัวได้ ดังนั้น ควรแยกบัญชีเงินออม และเงินสำหรับใช้จ่ายออกจากกัน และควรแยกบัญชีตามจุดประสงค์ในการออมเงิน เช่น แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน คือ สำหรับใช้จ่าย, สำหรับออมเพื่อลงทุน และสำหรับออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นต้น

หลังจากได้สำรวจตัวเองเพื่อ ลด-ละ-เลิก นิสัยที่ทำให้เก็บเงินไม่อยู่กันไปแล้ว fintips by ttb ยังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการพิชิตเงินล้านแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนมาฝากกัน เพียงแค่ 3 ป. พิชิตเงินล้าน ฉบับพนักงานเงินเดือน

  1. ป้องกันความเสี่ยง:การมีเงินทุนสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงด้านการเงิน เนื่องจากอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน การมีเงินสำรองไว้สักก้อนจึงเป็นสิ่งที่ทำอุ่นใจมากกว่า โดยควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน สำหรับใช้อย่างน้อย 6-12 เดือน เผื่อไว้ในกรณีขาดรายได้ หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น หากมีรายรับ 25,000 บาทต่อเดือน และมีรายจ่ายรวมต่อเดือน 14,000 บาท ดังนั้น ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินประมาณ 84,000-168,000 บาท (6-12 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน) และอีกหนึ่งสิ่งที่คนมักมองข้ามนั่นคือ การซื้อประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมากะทันหัน ประกันสุขภาพก็ช่วยประหยัดเงินก้อนไปได้อีกเยอะ
  2. ปลอดหนี้:รักษาสภาวะ “ปลอดหนี้” เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคง เช่น ก่อนรูดบัตรเครดิตซื้อของ ควรศึกษาเงื่อนไขและโปรโมชันให้ดีก่อน
  3. เปลี่ยนเงินออมให้งอกเงย:หากแบ่งเงินเดือนละประมาณ 5,000 บาท เพื่อออม หรือลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจ ได้ผลตอบแทนดี และเลือกความเสี่ยงในระดับที่สบายใจ จะช่วยเปลี่ยนเป้าหมายชีวิตให้กลายเป็นความจริง การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ฉะนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนเลือกลงทุน

ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น ลด ละ เลิก นิสัยทั้ง 6 ข้อ ที่จะทำให้เก็บเงินไม่อยู่ และทริคดี ๆ เพื่อพิชิตเงินล้าน หากลงมือทำอย่างจริงจัง พร้อมเปลี่ยนตัวเอง ก็จะสามารถทำให้ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

 

Share: