ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวประกันโรคร้ายแรง Be Together Smart Care

157
0
Share:

ตอบโจทย์คนอยากจ่ายสั้น ซื้อง่ายผ่านแอปได้เลย คุ้มสุด 5 ปีไม่เคลม รับค่าเบี้ยคืน 50% ของเบี้ยปีสุดท้าย

 

 

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Be Together Smart Care ประกันชีวิตคุ้มครองโรคร้ายแรง ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เอาใจคนอยากซื้อง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ คุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาท จ่ายเบี้ยสั้น ครบสัญญา 5 ปี ไม่เคลม คืนเบี้ย 50% ของค่าเบี้ยปีสุดท้าย พร้อมโปรโมชันพิเศษช่วงเปิดตัว รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s 200 บาท เมื่อซื้อประกันภายใน 23 พ.ย. 65 -31 มี.ค. 66

นางสาวพรพิมล ตรงเที่ยงธรรม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายแรง Be Together Smart Care ซึ่งเสนอขายผ่านช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ โดยมีจุดเด่นที่ให้ความคุ้มครองสูง รับเงินก้อนสูงสุดถึง 1 ล้านบาท เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงยอดฮิต 5 กลุ่มโรค ประกอบด้วย โรคมะเร็งทุกระยะ โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด ภาวะโคม่า และไตวายเรื้อรัง ขณะเดียวกัน ผู้เอาประกันยังเบาใจเรื่องการขาดรายได้ เพราะแบบประกันจะจ่ายผลประโยชน์ค่าชดเชยรายวัน สำหรับการเข้าพักรักษาเป็นผู้ป่วยในเนื่องจากโรคร้ายแรง สูงสุดถึงวันละ 2,000 บาท รวมสูงสุด 365 วัน ตลอดอายุของกรมธรรม์ (เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นตามแผนประกันภัยที่เลือกซื้อ)

นอกจากนี้ แบบประกัน Be Together Smart Care ยังถูกออกแบบให้ค่าเบี้ยคงที่ ไม่ปรับเพิ่มขึ้นตามอายุ ตอบโจทย์ด้านความต้องการคุ้มครองระยะสั้น 5 ปี และชำระเบี้ยเพียง 5 ปี ที่สำคัญค่าเบี้ยที่จ่ายมาไม่เสียเปล่า กรณีไม่เคลม รับเงินคืน 50% ของเบี้ยประกันภัยปีสุดท้าย ลูกค้าสามารถใช้สิทธิการชำระค่าเบี้ยประกันเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามหลักเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนดอีกด้วย ทั้งสามารถซื้อได้ง่ายๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ โดยตอบคำถามสุขภาพแบบสั้นๆ เท่านั้น ก็สามารถซื้อได้ทันที

แบบประกัน Be Together Smart Care มีให้เลือกซื้อ 3 แผนตามผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรง 500,000 บาท 750,000 บาท และ 1,000,000 บาท โดยกรณีตรวจพบโรคร้ายแรงที่กำหนดในระดับต้นถึงระดับปานกลาง จะจ่ายผลประโยชน์ในอัตรา 40% ของเงินเอาประกันภัย เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยมีเงินก้อนเพื่อใช้รักษาตัวก่อน และหากลุกลามเป็นระดับรุนแรง จะจ่ายผลประโยชน์ส่วนที่เหลือจนครบ 100% ของเงินเอาประกันภัย ส่วนค่าชดเชยรายวันกรณีพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จะจ่ายตามแผนที่เลือกซื้อ ในอัตราวันละ 1,000 บาท 1,500 บาท และ 2,000 บาท ตามลำดับ รวมถึงมีผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตให้อีก 50,000 บาทด้วย

พิเศษสำหรับช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ลูกค้าที่สมัครและชำระค่าเบี้ยประกันโรคร้ายแรง Be Together Smart Care แผนใดก็ได้ ทั้งชำระค่าเบี้ยแบบรายปีและรายเดือน ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 65 – 31 มี.ค. 66 รับบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่า 200 บาท

“ธนาคารได้ร่วมมือกับ เอไอเอ ประเทศไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ Be Together Smart Care ที่มั่นใจว่าจะช่วยแก้ไขตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป้าหมายได้อย่างตรงใจ พร้อมกับวิธีการซื้อที่ทำได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการซื้อประกันโรคร้ายแรง และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าอีกด้วย” นางพรพิมล กล่าว

ด้านนางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการบริหารช่องทางการขายและบริการ Non Branch กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Be Together Smart Care ธนาคารตั้งต้นจากการทำความเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เป็นสำคัญ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการใช้งานแอปพลิเคชันและดิจิทัลอยู่แล้ว ทั้งมีความสนใจหรือซื้อผลิตภัณฑ์การเงินผ่านแอปพลิเคชัน ดังนั้น จุดสำคัญคือต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่ายและมีขั้นตอนการซื้อผ่านแอปฯ ได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก แบบประกันตรงกับความต้องการเรื่องเงินก้อนเพื่อใช้รักษาตัวและความกังวลเรื่องการขาดรายได้ รวมถึงความคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป เพราะลูกค้ารู้สึกว่าเป็นการเสียค่าเบี้ยเปล่าหากไม่มีเคลม

“ที่ผ่านมาธนาคารได้มุ่งมั่นพัฒนา ‘โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ’ (Bangkok Bank Mobile Banking) ให้เป็นแพลตฟอร์มที่มีความเป็นมิตร เข้าถึง และเข้าใจผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม เข้าใจคุณมากกว่าเดิม” พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบต่างๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งวันนี้เราได้พัฒนามาถึงผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆ ทั้งความคุ้มครองและการลดหย่อนภาษี ล่าสุดนี้เป็นประกันโรคร้ายแรงซึ่งปกติจะมีรายละเอียดและเงื่อนไขที่ต้องทำความเข้าใจค่อนข้างมาก นับเป็นความท้าทายสำหรับการนำเสนอขายผ่านแอปพลิเคชันที่ต้องกระชับ เข้าใจง่าย และซื้อได้รวดเร็ว ไม่ต้องไปสาขา เพื่อให้แอปนี้เป็นเหมือน “เพื่อนคู่คิด” ที่ลูกค้าหยิบมาซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ต้องการได้ทันทีที่ต้องการ” นางปรัศนี กล่าว

Share: