บริดจสโตนผนึกบีซีไอ ดึงเทคโนโลยีบล็อกเชน เพิ่มศักยภาพธุรกิจซื้อขายยางรถยนต์

432
0
Share:

บริดจสโตนฯ จับมือบีซีไอฯ ร่วมเสริมศักยภาพธุรกิจซื้อขายยางรถยนต์ ด้วยการริเริ่มใช้ “บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนประเภท Common Node (Website)”  ซึ่งสามารถใช้บริการผ่านช่องทาง Web application ได้เป็นครั้งแรกของประเทศ และรายแรกในธุรกิจยางรถยนต์ของไทย 

นายไตสุเกะ เมกุโระ ผู้อำนวยการสายงานบริหารองค์กร บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) ได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาเสริมศักยภาพด้านการบริหารกระบวนการซื้อขายยางรถยนต์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยที่ริเริ่มนำ “บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนประเภท Common Node (Website)” มาใช้กับธุรกิจและคู่ค้าของบริษัท โดยบริดจสโตนฯ ซึ่งเป็นผู้รับหนังสือค้ำประกันสามารถเข้าระบบเพื่อเรียกดูข้อมูลและตรวจสอบสถานะหนังสือค้ำประกันของคู่ค้าจากธนาคารต่าง ๆ ภายใต้ระบบดิจิทัลเดียวกันทั้งหมด ซึ่งช่วยลดต้นทุนการจัดการด้านเอกสารและการดูแลข้อมูล ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้สะดวก รวดเร็ว ต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์รายแรกของไทย

ทั้งนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยให้การประมวลผลข้อมูลและการทำธุรกรรมทั้งหมดผ่านอินเทอร์เน็ต (ระบบ Decentralized) ของบริดจสโตนฯ ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทุกวัน ทุกเวลา มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังมีความโปร่งใสตลอดกระบวนการ ช่วยตอบโจทย์วิสัยทัศน์ทางธุรกิจของบริดจสโตน ที่มุ่งมั่นส่งมอบคุณภาพด้านบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกให้แก่คู่ค้าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยการวางหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนบล็อกเชนมีความสะดวก ปลอดภัยมาตรฐานโลก ช่วยลดเวลาในการจัดการเอกสาร แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีบทบาทสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไม่ให้หยุดชะงัก และยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบสถานะของหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง

นายสิริวัฒน์ เกียรติเจริญสิน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บีซีไอ ในบทบาทของผู้ให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Letter of Guarantee – eLG)  บนเทคโนโลยีบล็อกเชนรายแรกของไทยที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความสนใจและใช้บริการอย่างแพร่หลาย ทั้งธนาคารไทยและต่างประเทศ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ โดยบีซีไอฯ มุ่งเน้นพัฒนาบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ให้ใช้งานได้จริง ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม และเข้าถึงได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ และยังพร้อมวางแผนพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีบล็อกเชนสู่บริการอื่นๆ เพื่อให้ทันต่อ Disruptive technology และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเพื่อลด Pain points ให้กับผู้ใช้งานในทุกภาคส่วน ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มั่นใจได้ มีความปลอดภัยสูง และใช้เป็นหลักฐานได้ตามกฎหมายอย่างถูกต้องสมบูรณ์ และปริมาณหนังสือค้ำประกันทั่วประเทศที่มีกว่า 500,000 ฉบับ มูลค่ากว่า 1.35 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด จึงตั้งเป้าที่จะให้บริการได้กว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าทั้งหมดภายใน 3 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบในอนาคต

 

Share: