ปั๊มน้ำมันน้องใหม่ “ฟีนิกซ์สเตชั่น” พร้อมลุย ปักธงถนนสายรอง ชูจุดขายใกล้ชิดชุมชน

489
0
Share:

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ส่งสัญญาณฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิดอย่างชัดเจน การเปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมัน หรือ ปั๊มน้ำมัน ทำให้เกิดคำถามมากมาย เช่น คนที่กล้าตัดสินใจลงทุนเปิดปั๊มน้ำมันในเวลาเช่นนี้ คิดอะไร? จุดขายที่จะใช้ต่อกรกับปั๊มพี่ใหญ่อยู่ตรงไหน? จะสู้ได้ไหม? “โชติศักดิ์ อาภาสวิริยะ”ประธานยุทธศาสตร์การตลาด บริษัท ฟีนิกซ์ พี -วัน จำกัด มีคำตอบ

หลาย ๆ คนคงจะคุ้นชื่อ “โชติศักดิ์” อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงก์  ที่เปลี่ยนเป็น SME  D Bank ในปัจจุบัน โดยคุณโชติศักดิ์ เปิดฉากการสนทนาย้อนถึงที่มาของการเปิดปั๊มน้ำมันน้องใหม่ว่า เป็นความร่วมมือกันระหว่างสองบริษัทในวงการพลังงานคือ  บริษัท ภาคภิญโญ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจค้าน้ำมัน และการขนส่งน้ำมันทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบริษัท พาวเวอร์ แอนด์ เอ็นเนอร์ยี่ แมเนจเมนท์ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอีกราย เพื่อจัดตั้งบริษัท ฟีนิกซ์ พี-วัน จำกัด เปิดสถานีบริการน้ำมันและประจุไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “ฟีนิกซ์สเตชั่น” หรือ “ปั๊มน้ำมันฟีนิกซ์”

บริการของปั๊มน้ำมันน้องใหม่ในวงการค้าปลีกน้ำมัน “ฟีนิกซ์สเตชั่น” ไม่ได้มีเพียงแค่ให้บริการเติมน้ำมันเท่านั้น แต่จะให้บริการชาร์ตประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ด้วย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจำนวนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยจะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากภายในระยะเวลาอีกไม่นานหลังจากนี้ ตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

“ผมรู้ว่าจะต้องมีคนถามว่าคิดยังไงถึงจะเปิดปั๊มในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ จริง ๆ แล้ว ผมมองว่าการลงทุนช่วงนี้เป็นการช่วยชาติ และเป็นโอกาส เพราะตอนนี้ทั้งค่าแรง ค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุถูกหมด มองแล้วน่าจะเป็นโอกาสที่ดี พอเวลาเศรษฐกิจกลับมาดี เราก็จะพลิกฟื้นขึ้นมาดีเลย เราจะไม่ใช่ปั๊มน้ำมันทั่ว ๆ ไป แต่จะเป็นสถานีบริการที่ครบวงจรที่สุด และมุ่งเน้นสู่ชนบท มุ่งเน้นถนนเส้นรองเป็นหลัก ไม่แข่งขันกับรายใหญ่ ๆ เราก็จะเข้าไปแบ่งการดูแลประชาชนระดับชุมชน” คุณโชติศักดิ์กล่าว

พร้อมบอกถึงจุดแข็งของปั๊มน้ำมันฟีนิกซ์ว่า จุดแข็งที่สุดของฟีนิกซ์สเตชั่น คือ การบริการ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการเติมน้ำมันอย่างเดียว แต่จะล้ำหน้านำเอาเทคโนโลยีเข้าไปให้ประชาชนระดับชุมชน มีการใช้พลังงานโซลาร์ และ อีวี ปั๊มแห่งนี้จะเป็นศูนย์เรียนรู้ที่คนในถนนสายรอง หรือชนบท ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ทันเวลา เรียนรู้ได้เร็วมากขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เป็นการนำความเจริญก้าวหน้าเข้าไปสู่ชุมชน และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ รวมทั้งพัฒนาเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่นอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

“ฟีนิกซ์สเตชั่น” จะเริ่มเปิดให้บริการราวเดือนกรกฎาคม หรือเดือนสิงหาคม 2564 เบื้องต้นจะกระจายไปในระดับชนบทราว 20 แห่งก่อน และในปี 2565 จำนวนปั๊มที่ให้บริการจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 แห่ง โดยขนาดของปั๊มจะแบ่งเป็นปั๊มลักษณะไมโคร สเตชั่น ซึ่งบริษัท ฟีนิกซ์ พี-วัน จำกัด ลงทุนเองเป็นส่วนใหญ่ แต่หากเป็นปั๊มน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็พร้อมที่จะลงทุนร่วมกับดีลเลอร์ในสัดส่วน 50%

“ตอนนี้บางชุมชนมีคนทำอยู่แล้ว เราก็เข้าไปต้องการหาพันธมิตรทางธุรกิจกับฟีนิกซ์ เราต้อนรับคู่ค้าทุกราย ภายใต้แนวคิดว่าคู่ค้าจะต้องลงทุนน้อย คืนทุนไว และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุด เราต้อนรับทั้งผู้ประกอบการสถานีน้ำมัน และผู้ที่จะร่วมเป็นคู่ค้าในปั๊มน้ำมัน”

คุณโชติศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายโดยยอมรับว่า ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเป็นธุรกิจที่มีกำไรไม่มาก ซึ่งราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวตามราคาตลาดในโลก และผู้ให้บริการรายใหญ่น่าจะเป็นฝ่ายกำหนดตลาด แต่การบริหารจัดการและการควบคุมต้นทุนที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจมีกำไรที่ดีได้ และเมื่อบวกกำไรจากธุรกิจ Non Oil แล้ว การตัดสินใจเดินหน้าเปิดสถานีให้น้ำมัน “ฟีนิกซ์สเตชั่น” ในสถานการณ์เช่นนี้ คือโอกาสทางธุรกิจแน่นอน

 

Share: