มองดัชนีหุ้นไทยฝ่าด่าน 1,600 จุดเรื่องยาก บลจ.วรรณแนะกระจายลงทุนตลาดนอก
บลจ.วรรณ มองโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะวิ่งขึ้นแตะระดับ 1,600 จุด เป็นเรื่องยาก ชี้พิษโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการเมืองภายในประเทศเป็นตัวฉุด แนะจัดพอร์ตกระจายการลงทุนหุ้น-ตราสารหนี้ต่างประเทศ
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยน่าจะติดลบกว่า 6 % เนื่องจากไม่สามารถเปิดประเทศได้ จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศรอบใหม่ รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่ยังคงรุนแรง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยที่ต้องพึ่งพาภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลักไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่ ท่ามกลางการแข็งค่าของเงินบาทที่คาดจะยืนอยู่ระดับกว่า 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งปัญหาการประท้วงภายในประเทศ ขณะที่ค่าพีอีเรโชตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันที่ระดับ 25-26 เท่า ถือว่าแพง
“ดังนั้น โอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวสูงขึ้นไปแตะระดับ 1,600-1,650 จุดจึงมีโอกาสน้อย แต่ในทางกลับกันโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลดลงไปที่ระดับ 1,400 จุด จะมีโอกาสมากกว่า กลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนในปีนี้ นักลงทุนจึงควรเน้นกระจายความเสี่ยงออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 40% ตราสารต่างประเทศ 40% หุ้นไทย 10% และกองทุนทางเลือก 10% ซึ่งมองว่าตลาดที่น่าสนใจคือ ตลาดหุ้นจีน ญี่ปุ่น อาเซียน เวียดนาม ตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมทั้งเลือกลงทุนในกองทุนไฮยีลบอนด์”
นายพจน์ กล่าวด้วยว่า ปีนี้ บลจ.วรรณ ตั้งเป้าหมายจะรักษามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (AUM) ให้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.54 แสนล้านบาท โดยจะมีการออกและเสนอขายกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง บลจ.วรรณและกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ภายใต้การร่วมมือบริหารกองทุนซีรีย์พิเศษ GLOBAL TOP8M ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการออกกองที่ 10 ที่จะเปิดขายในวันที่ 2-8 ก.พ.นี้ หลังจากกองที่ 9 มียอดจองซื้อเต็มจำนวน 2 พันล้านบาท ภายในเวลา 4 ชั่วโมง เมื่อเปิดให้มีการจองซื้อเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา บลจ.วรรณ ให้น้ำหนักการศึกษาเชิงลึกและวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของหุ้นกลุ่มใหม่ๆ เพื่อหากลยุทธ์ในรูปแบบหาพันธมิตรที่เชี่ยวชาญในหุ้นกลุ่มนั้น ๆ และการคัดเลือกหุ้นโดยผู้จัดการของบลจ.เอง เช่น กลุ่มนวัตกรรม กลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์และกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม
