วอลโว่ เปิดแผนยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการ ซ่อมตัวถังและสีแบบครบวงจร

338
0
Share:

วอลโว่ (VOLVO) ไม่หยุดยั้งการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” มอบความอุ่นใจด้วยบริการซ่อมตัวถังและสี บนมาตรฐานระดับสากลจากศูนย์บริการวอลโว่ เพื่อให้คุณได้รถยนต์หลังซ่อม มีสมรรถนะดีเยี่ยมเหมือนวันแรกที่ถอยจากโรงงาน และสามารถขับขี่รถยนต์วอลโว่ด้วยคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดอายุการใช้งานอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ศูนย์บริการมาตรฐานVCDR ยังดำเนินงานบนพื้นฐานแนวคิดความยั่งยืนอย่างเข้มงวดตามหลักปรัชญาด้านสิ่งแวดล้อมที่วอลโว่ยึดมั่นมาโดยตลอด

มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยปรัชญาที่กำหนดให้ประสบการณ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลางการทำงาน (Customer Experience is The Core of Everything We Do) วอลโว่จึงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานในทุก ๆ ด้านเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้แก่ลูกค้า ซึ่งนอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์เกรดพรีเมียมสู่ตลาดยานยนต์ทั่วโลก ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานของศูนย์ซ่อมตัวถังและสี มาอย่างต่อเนื่อง เพราะอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและวอลโว่ตระหนักดีว่า การบริการซ่อมตัวถังและสีจะต้องมีมาตรฐานสูงไม่แพ้การซ่อมบำรุงตามระยะทางรถยนต์ ในปีนี้วอลโว่จึงได้พัฒนาแผนงาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) เพื่อให้รถยนต์ที่ผ่านการซ่อมตัวถังและสีจากศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ที่ได้มาตรฐานสมรรถนะสมบูรณ์และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเสมือนเพิ่งถอยออกจากโรงงานในวันแรก ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าด้วยมาตรฐานการดูแลรถยนต์หลังการขาย โดยปราศจากความกังวลใจในการดูแลรถแบบ 100% ตลอดอายุการใช้งาน”

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย พร้อมตอบรับแผนงาน “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” ของวอลโว่สากล เพื่อยกระดับการบริการในประเทศ โดยจะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานหลัก 3 ด้าน ได้แก่

  1. การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและขั้นตอนการทำงานที่เหมาะสมเพื่อผลงานที่มีคุณภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานให้น้อยที่สุด
  2. การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบริการที่รวดเร็ว มอบประสบการณ์ลูกค้าชั้นเยี่ยมที่ทุกคนพึงพอใจ
  3. การบริหารทรัพยากรอย่างมีคุ้มค่าเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและยืดหยุ่นของธุรกิจในภาพรวม

ปัจจุบัน ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน VCDR ของวอลโว่ ในเมืองไทยที่ดำเนินงานตามมาตรฐาน และพร้อมให้บริการแล้ว มี 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทสแกนดิเนเวียน ออโต้ จำกัด (สาขาหทัยราษฎร์) และ บริษัทนิวตัน บอดี้ แอนด์ เพนท์ จำกัด

คุณเสรี แซ่คู กรรมการผู้จัดการ บริษัทสแกนดิเนเวียน ออโต้ จำกัด จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบันการทำธุรกิจแบบครบวงจรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตอบโจทย์ลูกค้าทุกอย่าง เดิมมีการบริหารโชว์รูมและศูนย์บริการของวอลโว่ที่ถนนรามอินทราอยู่แล้ว และมีความสนใจขยายธุรกิจออกไป เลยตัดสินใจลงทุนเพื่อทำ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) บนถนนหทัยราษฎร์ เพื่อรองรับการบริการครบวงจรของลูกค้าวอลโว่ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด โดยเฉพาะลูกค้าในโซนพื้นที่ส่วนเหนือ มาตรฐานการทำงานและขั้นตอนได้ถูกกำหนดโดยวอลโว่ คาร์ (สวีเดน) ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและไว้วางใจในการเข้ารับบริการจากเราเพิ่มมากขึ้น”

คุณพีรพร ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทนิวตัน บอดี้ แอนด์ เพนท์ จำกัด กล่าวว่า “มีความมั่นใจในการทำธุรกิจร่วมกับ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นทุนเดิม เพราะเป็นผู้จัดจำหน่ายและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ ในพื้นที่เขตตลิ่งชันมาก่อน เมื่อมีการเสนอแผนธุรกิจของ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) และตรงกับความตั้งใจของตนเอง จึงไม่รี่รอที่จะลงทุนเพื่อขยายการบริการให้ครบวงจรสำหรับลูกค้าวอลโว่ในเขตกรุงเทพฯ และ ครอบคลุมในพื้นที่ส่วนใต้ทั้งหมด ปัจจุบันได้ให้บริการลูกค้าวอลโว่แล้ว และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเกินความคาดหมายประกอบกับความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ Volvo Certified Damage Repair Centre ที่ได้รับการอบรมและตรวจสอบคุณภาพการทำงานทุกขั้นตอนตามแบบมาตราฐานของวอลโว่ คาร์ (สวีเดน)

“หลังจากที่วอลโว่นำเสนอคอนเซ็ปต์ Volvo Retail Experience (VRE) เพื่อมอบบรรยากาศโชว์รูมที่สวยงามหรูหราโปร่งสบายสไตล์สแกนดิเนเวียน ตลอดจนบริการที่เป็นมิตรจากพนักงานทุกแผนก และ Volvo Personal Service (VPS) ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับช่างเทคนิค เพื่อให้เจ้าของรถได้รับทราบการซ่อมบำรุงทุกขั้นตอนและกำหนดวันรับส่งรถโดยละเอียด การนำเสนอ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของวอลโว่ในการยกระดับประสิทธิภาพในส่วนของฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่อให้ทุก ๆ แผนกได้รับการอัปเกรดไปพร้อมกัน และสามารถบูรณาการเพื่อมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีเยี่ยมให้แก่เจ้าของรถยนต์วอลโว่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยการนำเสนอรถยนต์พลังงานสะอาดระดับพรีเมียม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน ผมเชื่อว่าวอลโว่จะสามารถนำเสนอมูลค่าการครอบครองยานยนต์ชั้นเลิศแก่ผู้บริโภค ทั้งในแง่ธุรกิจและสิ่งแวดล้อมต่อไปได้อย่างยั่งยืน” มร.คริส เวลส์ กล่าวสรุป

 

 

Share: