ศธ.ชูจุฬาภรณราชวิทยาลัยโรงเรียนต้นแบบมัธยมดี 4 มุมเมือง

499
0
Share:

ศธ. ต่อยอดการพัฒนาโรงเรียน วิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย “สัมฤทธิผล​ ก้าวไกล ในระดับนานาชาติ”  เตรียมใช้เป็นต้นแบบ พัฒนาโรงเรียนมัธยมดี 4 มุมเมืองและโรงเรียนประจำทั่วประเทศ  เพราะโดดเด่นด้าน “วิชาการ-ระเบียบวินัย-การบริหารจัดการ” 

เมื่อวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน​ 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ​ เป็นประธานเปิดงาน “10 ปี การพัฒนาต่อยอดโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยตามอุดมการณ์” โดยมี คุณหญิง​กัลยา​ โสภณ​พ​นิช​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ, H.E. Mr. NASHIDA Kazuya เอกอัครราชทูต​ญี่ปุ่น​ประ​จำ​ประเทศไทย, H.E. Mr. Taha Macpherson เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย, นายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการ​การศึกษา​ขั้น​พื้นฐาน ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ​ ผู้บริหารสถานศึกษา​ คณะครู และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ ห้อง Jupiter โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดี กรุงเทพมหานคร
รมว.ศึกษาธิการ​ กล่าวว่า โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย​ มีผลการดำเนินงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างเยาวชนที่มีคุณภาพให้ประเทศ ทั้งในเรื่องของความสำเร็จในการประเมินคุณภาพการศึกษานานาชาติ PISA, การเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ, ผลงานโครงการของนักเรียนที่จดอนุสิทธิบัตร เป็นต้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะต่อยอดการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์​ เทคโนโลยี​ และสิ่งแวดล้อม จึงขอให้สานต่อการดำเนินงานและยกระดับโรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย​ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน รวมถึงเตรียมแนวทางการพัฒนาเด็กนักเรียนที่มีความเป็นเลิศ เพื่อให้เด็กเหล่านี้เข้ามีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในอนาคต
“โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย​ มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า สามารถเป็นตัวอย่างให้โรงเรียนอื่น ๆ ในสังกัดกระทรวง​ศึกษาธิการ​ได้ หากเราสามารถนำต้นแบบนี้ไปพัฒนาสถานศึกษาอื่น ๆ ทั่วประเทศ หรือสนับสนุนให้สถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศ ดูแลและให้ความช่วยเหลือ
รวมทั้งแบ่งปันทรัพยากรด้านการศึกษา ตลอดจนสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอนต่าง ๆ ร่วมกันกับโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง ก็จะส่งผลให้โรงเรียนในพื้นที่นั้น มีคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ ขอขอบคุณหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาการศึกษา สร้างเยาวชนที่มีความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์​และเทคโนโลยีให้กับประเทศ” รมว.ศึกษาธิการ​ กล่าว
รมช.ศึกษาธิการ​ กล่าวว่า โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย เป็นโรงเรียนประจำที่ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครู สนับสนุนให้มีกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดเวลา ทั้งทักษะด้านวิชาการ ดนตรี และกีฬา ส่งผลให้เด็กมีความสามารถรอบด้าน และมีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันด้านต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นการกระตุ้นและทำให้เด็กเกิดความตื่นตัวในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ นอกจากนี้ นักเรียนได้นำปัญหาของท้องถิ่นมาทำการวิจัย และช่วยแก้ปัญหาให้กับคนในพื้นที่ จึงเป็นการต่อยอดการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในทุกด้าน
“เด็กไทยมีความรู้ความสามารถ รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ​ให้การสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทย ให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ ทั้งนี้ การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการศึกษา​ที่มีคุณภาพในระดับสากล โดยกระทรวงศึกษาธิการ​มีแนวทางที่จะขยายผลความร่วมมือระหว่างโรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัยกับโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ แก่โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงโรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย ผ่านโครงการวิทยาศาสตร์​พลังสิบ เพื่อสร้างพื้นฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์​ คณิตศาสตร์​ และเทคโนโลยีให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ต่าง ๆ” รมช.ศึกษาธิการ​ กล่าว
นอกจากนี้ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ยังเป็นต้นแบบด้านพื้นฐานบริหารจัดการเกี่ยวกับโรงเรียนประจำในบริบทอื่นๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เท่านั้น รวมถึงการเป็นต้นแบบของการสร้างระเบียบวินัย

“งานในวันนี้ คือความสำเร็จด้านการศึกษาซึ่งใช้เวลา โดยเฉพาะในการศึกษาที่มีความเข้มข้นในเรื่องวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เป็นโรงเรียนที่ได้รับการวางแผนมาและต่อยอดมาถึงรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาการศึกษาเข้มข้นที่โดเด่นด้านวิทยาศาสตร์”

นอกจากนี้  การต่อยอดให้มีโรงเรียนแบบจุฬาภรณราชวิทยาลัย ถือว่ามีความจำเป็น  เพราะสิ่งที่พบเห็นว่า การมีโรงเรียนในรูปแบบดังกล่าว  ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มีนักเรียนเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากมาจากในจังหวัดนั้นๆ  ทำให้เห็นว่าการเดินทางเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง แม้จะเป็นโรงเรียนประจำก็ตาม

ดังนั้นทางรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณได้ เราก็จะขยายผลจากตรงนี้ เพราะเราเห็นต้นแบบโรงเรียนนี้มาแล้ว 10 ปี และเราสามารถเห็นจุดอ่อนจุดแข็ง ในการที่เราจะสร้างโรงเรียนต้นแบบทั้งด้านวิชาการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ต้นแบบการสร้างระเบียบวินัย ในโรงเรียนที่อาจจะเป็นโรงเรียนหลักในอนาคต  เช่น โรงเรียนมัธยมดี 4 มุมเมือง และการจัดระเบียบต่างๆ

“เป็นแนวทางที่เราสามารถ นำไปใช้ได้ เห็นงบประมาณที่ชัดเจน และการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เช่นห้องเรียนต่างๆ ที่เราเห็นในโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้ว  เราสามารถนำมาขยายผลให้เป็นห้องเรียนสำหรับโรงเรียนมัธยมดี 4 มุมเมืองที่มีคุณภาพได้  จริงๆ แล้วทั่วประเทศการจัดสรรงบประมาณถือเป็นเรื่องสำคัญ” นายณัฏฐพล กล่าว

นอกจากนี้ ในมุมมองของตน  เรายังสามารถพัฒนาได้อีกในทุกๆ ด้าน เราต้องไม่หยุดในการพัฒนาศักยภาพการศึกษา หากอะไรที่เราคิดว่าเรามีความพร้อมแล้วสำหรับประเทศ เราต้องไปเปรียบเทียบความพร้อมกับโรงเรียนประเทศอื่นๆ และโรงเรียนนานาชาติ ว่า เรายังมีความแตกต่างกับเขาอีกหรือไม่ เพื่อนำความแตกต่างเหล่านี้ นำมาผสมผสาน ซึ่งเราสามารถนำมาพัฒนาได้ อันไหนที่เราคิดว่าดีแล้วเราก็ต้องทำต่อไป ส่วนอันไหนยังไม่ดีพอก็ต้องพัฒนา

ปัจจุบัน โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย ตั้งอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ตามภูมิภาคของประเทศไทย จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย เชียงราย, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย พิษณุโลก, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย ลพบุรี, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย เลย, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย มุกดาหาร, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย บุรีรัมย์, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย ปทุมธานี, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย ช​ลบุรี, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย เพชรบุรี, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย นครศรีธรรมราช, โรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย ตรัง และโรงเรียนวิทยาศาสตร์​จุฬาภรณ​ราช​วิทยาลัย สตูล

Share: