เคล็ดลับต้องรู้ ก่อนลงทุนแฟรนไชส์ที่ใช่สร้างกำไรอย่างที่ต้องการ ในมุมมองไทยพาณิชย์

448
0
Share:

หนึ่งในเทรนด์การทำงานของโลกหลังโควิด-19 คือแนวโน้มที่จะทำให้หลายๆ คนมองหาอาชีพเสริม ซึ่งมากไปกว่างานประจำของตน เป้าหมายหลักคือความสามารถในการหารายได้ที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างอิสระและความยืดหยุ่นจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในยามวิกฤต “ธุรกิจแฟรนไชส์” ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และอาจสร้างเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นได้ เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งกับกลุ่มพนักงานประจำที่ต้องการเสริมรายได้ระยะยาว หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้เกษียณที่ยังมีไฟในการทำงาน

คุณพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในขณะที่เรากำลังอยู่ระหว่างปรับตัวรอให้สภาวะทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ระหว่างนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีของการศึกษาธุรกิจ รูปแบบการทำงาน และวางแผนการลงทุน เป็นโอกาสสำหรับว่าที่ผู้ประกอบการใหม่ที่ควรคว้าเอาไว้ เพราะการวางแผนบริหารต้นทุนทางการเงินควบคู่กับการวางแผนธุรกิจที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยปูทางสู่โอกาสในวันข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

“ธุรกิจแฟรนไชส์” เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยศักยภาพของแฟรนไชส์ในประเทศไทยที่สามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ อีกทั้งความหลากหลายของประเภทธุรกิจ และขนาดของการลงทุนแฟรนไชส์ที่มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลายสิบล้านบาท จึงรองรับความต้องการลงทุนที่แตกต่างกันของผู้ประกอบการแต่ละรายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีข้อได้เปรียบที่ดึงดูดใจคนอยากมีธุรกิจของตัวเอง อาทิ แฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นได้โดยใช้เวลาไม่นาน แม้ไม่มีประสบการณ์ ไม่ต้องเสียเวลาในการบุกเบิกหรือลองผิดลองถูก เพราะเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ (Franchisor) ได้อาศัยประสบการณ์ของตนในการทำธุรกิจที่จะขายแฟรนไชส์มาเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการวางระบบต่าง ๆ ให้ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อถ่ายทอดให้แก่ผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ (Franchisee) ที่เพียงนำมาปฏิบัติตามโมเดลที่สร้างไว้ รวมถึงข้อได้เปรียบด้านชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของแบรนด์มักเป็นที่ยอมรับและติดตลาดอยู่แล้ว ขณะที่การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์และคิดกลยุทธ์การตลาดก็เป็นเรื่องที่ Franchisor ดูแลให้อย่างเป็นแบบแผน

แม้มองเห็นโอกาสสำเร็จจากการสร้างรายได้และการคืนทุนเร็วของธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ต้องจำไว้เสมอว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนที่จะกระโจนเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ เราต้องสำรวจตัวเองและทำความเข้าใจธุรกิจให้ถี่ถ้วนก่อนเดินหน้าลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จึงมีคำแนะนำ “5  พื้นฐานต้องรู้ ก่อนลงทุนแฟรนไชส์เพื่อสร้างกำไรอย่างที่ต้องการ” เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวสำหรับผู้สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ทุกคน ดังนี้

  1. สำรวจความต้องการและเงื่อนไขของตัวเองเพื่อช่วยหาไอเดียของประเภทธุรกิจที่เราควรลงทุน เพราะการทำธุรกิจในสิ่งที่ชอบและถนัดจะช่วยให้เข้าใจระบบของธุรกิจได้ง่ายขึ้นและอยู่กับธุรกิจนั้นได้นาน ขณะเดียวกันจำเป็นต้องรู้เงื่อนไขของตัวเองเพื่อหารูปแบบแฟรนไชส์ที่เหมาะสม เช่น หากเราไม่มีเวลาบริหารจัดการธุรกิจตลอดทั้งวันก็ต้องเลือกแฟรนไชส์ที่ไม่ซับซ้อนและสำเร็จรูป เช่น ธุรกิจสะดวกซัก หรือ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เป็นต้น หากต้องการทำธุรกิจที่มีอิสระในการบริการจัดการด้วยตัวเอง ต้องมองหาแฟรนไชส์ในลักษณะ Products Franchise ที่ให้เฉพาะสิทธิ์ในเรื่องวัตถุดิบ การขายสินค้า และเครื่องหมายการค้า ซึ่งแตกต่างจาก Business Format Franchise ที่ให้สิทธิ์พร้อมระบบและวิธีการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เป็นแนวทางให้ปฏิบัติได้ง่าย
  2. ศึกษารายละเอียดต้นทุน ค่าธรรมเนียม และระยะเวลาคืนทุนแฟรนไชส์แต่ละแบรนด์มีจำนวนค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) ซึ่งเป็นเหมือนค่าธรรมเนียมแรกเข้าเพื่อให้ได้สิทธิ์ และค่าธรรมเนียมสนับสนุนต่อเนื่อง (Royalty Fee) ที่ Franchisor จะเรียกเก็บโดยกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ผู้สนใจลงทุนจะต้องวิเคราะห์ดูว่าค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เรียกเก็บนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ มีสิ่งใดตอบแทนกลับมาจากค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายตลอดการดำเนินธุรกิจ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนก่อสร้าง การตกแต่งสถานที่ และค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้ร้านแฟรนไชส์นั้นสามารถดำเนินกิจการได้ นอกจากนี้ควรพิจารณาในเรื่องของระยะเวลาคืนทุน ซึ่งควรมีระยะเวลาคืนทุนสอดคล้องกับสัญญาแฟรนไชส์เพื่อเป็นหลักประกันได้ว่า การลงทุนแฟรนไชส์นั้น     ผู้ลงทุนจะมีกำไรที่มากขึ้นภายหลังจากระยะเวลาคืนทุน ซึ่งเป็นระยะเวลาเก็บเกี่ยวรายได้ของธุรกิจแฟรนไชส์ 
  3. วิเคราะห์ศักยภาพของแฟรนไชส์ที่จะลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใด จะต้องวิเคราะห์ตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ให้ชัด คุณค่าของสินค้าและบริการต้องแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจประเภทเดียวกัน และต้องมั่นใจว่า Franchisor มีเป้าหมายธุรกิจในอนาคตและมีวิธีการทำให้เป้าหมายเกิดขึ้นจริงอย่างชัดเจน และมีข้อมูลความสำเร็จที่น่าเชื่อถือของ Franchisee ปัจจุบันให้เห็นอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนเองจำเป็นต้องลงศึกษาพื้นที่จริงในหลายๆ สาขา เพื่อทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ คู่แข่ง และกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องก่อนตัดสินใจเดินหน้าลงทุน
  4. การสนับสนุนและช่วยเหลือจากเจ้าของสิทธิ์เพราะ Franchisor คือพี่เลี้ยงในการทำธุรกิจ จึงต้องพร้อมเคียงข้างช่วยสนับสนุนให้กิจการของเราไปได้ตลอดอายุสัญญา ก่อนลงทุนจึงต้องมั่นใจว่า Franchisor จะมีการถ่ายทอดโมเดลธุรกิจให้กับ Franchisee ผ่านการอบรมหรือเทรนนิ่งอย่างทั่วถึงด้วยมาตรฐานเดียวกัน และไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ Franchisee เมื่อธุรกิจเกิดปัญหาจะต้องมีระบบที่ดีสามารถส่งทีมเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัก และในกรณีประสบวิกฤตเจ้าของแฟรนไชส์มีนโยบายเข้ามาช่วยดูแลหรือไม่อย่างไร ในวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้เราได้เห็นเจ้าของแฟรนไชส์หลายแบรนด์ที่ไม่ทอดทิ้งให้ Franchisee ต่อสู้เพียงลำพัง นับเป็นองค์ประกอบที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน   
  5. เงินทุนในการดำเนินธุรกิจหากเรามีเงินทุนของตัวเองเพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเริ่มต้นธุรกิจและมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะใช้หมุนเวียนธุรกิจก็ไม่จำเป็นต้องหาแหล่งทุนอื่น สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ทันที แต่หากมีเงินทุนไม่เพียงพอ หรือต้องการเก็บเงินทุนของตนเองเพื่อไปเสริมสภาพคล่องในเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถแจ้งความต้องการไปยัง Franchisor เพื่อช่วยประสานกับธนาคารพันธมิตรในการสนับสนุนสินเชื่อ ขอเพียงมีการรับรองจาก Franchisor ก็จะสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์ได้แล้ว

ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์เป็นพันธมิตรกับแฟรนไชส์ชั้นนำที่มีศักยภาพมากกว่า 30 แบรนด์ ครอบคลุมทั้งธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ เบเกอร์รี่ ธุรกิจปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจสะดวกซัก และสถานศึกษา เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีอาชีพที่มั่นคงเติบโตสู่การเป็นเอสเอ็มอีที่แข็งแกร่ง และพร้อมเป็นแหล่งเงินทุนให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไซส์ที่ไม่ได้มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาก่อน ด้วยแนวคิด SCB Instant Franchise เปิดโอกาสเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ได้ง่ายๆ สามารถเปิดร้านขายได้อย่างรวดเร็ว และยังมั่นใจกับความสำเร็จในยุค New Normal ด้วยเครื่องมือดิจิทัลครบครัน เช่น ระบบการชำระเงินดิจิทัลครบวงจร บริการปักหมุดร้านค้าบน Google Map พร้อมบริการ Food Delivery บนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด เป็นต้น ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลผ่านเว็บไซต์ https://scbsme.scb.co.th/  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ SCB Business Call Center โทร. 02 722 2222

 

Share: