เร้ดแฮทแต่งตั้ง แมตต์ ฮิกส์ เป็นประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร รับช่วงต่อจาก พอล คอร์เมียร์ ที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทของเร้ดแฮท

272
0
Share:

เร้ดแฮท อิงค์ ผู้ให้บริการโซลูชันโอเพ่นซอร์สระดับแนวหน้าของโลก ประกาศแต่งตั้งนายแมตต์ ฮิกส์ เป็นประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร (President and CEO) แทนนายพอล คอร์เมียร์ ซึ่งจะไปดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท (Chairman) ของเร้ดแฮท โดยก่อนหน้านี้นายฮิกส์ดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเร้ดแฮท

 

แมตต์ ฮิกส์, ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร, เร้ดแฮท

นายฮิกส์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำที่ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังคนหนึ่งของเร้ดแฮท เขาเข้าร่วมงานกับเร้ดแฮทเมื่อปี พ.ศ. 2549 ในตำแหน่งนักพัฒนาในทีมไอที และก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้านต่างๆ ภายในองค์กรอย่างรวดเร็ว พร้อมช่วยให้เร้ดแฮทแข็งแกร่งขึ้นในฐานะผู้นำเทคโนโลยีโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ และที่โดดเด่นที่สุดคือ นายฮิกส์เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งทีมวิศวกรที่พัฒนา Red Hat OpenShift ซึ่งกลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานสำคัญของการใช้ไฮบริดคลาวด์ของอุตสาหกรรมต่างๆ โดยปัจจุบันให้บริการเป็นแพลตฟอร์ม Kubernetes ระดับองค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และไฮบริดคลาวด์คอมพิวติ้งของเร้ดแฮทมาอย่างต่อเนื่องด้วย

เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี นายฮิกส์รับผิดชอบด้านกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมทั้งหมดของเร้ดแฮท ผลงานที่โดดเด่นภายใต้การนำของนายฮิกส์ เช่น กลยุทธ์และพอร์ตโฟลิโอด้านโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ของเร้ดแฮทได้ขยายสมรรถนะที่ช่วยให้ลูกค้าสร้าง ใช้ และจัดการแอปพลิเคชันทุกประเภทได้ในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมแบบภายในองค์กรไปจนถึงบนคลาวด์หลายระบบและที่ edge ซึ่งรวมถึงบริการใหม่ด้านการจัดการระบบคลาวด์ ที่ช่วยลูกค้าพัฒนาคลาวด์-เนทีฟแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้น มีความสามารถใหม่ๆ ในการเร่งพัฒนา AI, ผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถนำไปใช้งานที่ edge ได้ และวิธีรักษาความปลอดภัยแบบใหม่ที่ครอบคลุมสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ทั้งหมด

นายฮิกส์มีประสบการณ์ด้าน Linux มากว่า 25 ปี และมีพื้นความรู้ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มีวิสัยทัศน์ในภาคอุตสาหกรรมและความเฉียบแหลมทางธุรกิจ เขาได้รับการยอมรับด้านความสามารถในการใช้นวัตกรรมโอเพ่นซอร์สแก้ไขความท้าท้ายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นให้กับลูกค้าและพันธมิตร

นายคอร์เมียร์ร่วมงานกับเร้ดแฮทมาเป็นเวลา 21 ปี และได้ดำรงตำแหน่งประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของเร้ดแฮทในปี พ.ศ. 2563 ในช่วงเวลาดังกล่าว พอล คอร์เมียร์ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์โอเพ่นไฮบริดคลาวด์ของบริษัทฯ อย่างมาก เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขยายพอร์ตโฟลิโอของเร้ดแฮทให้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีที่ทันสมัยและครบครันบนพื้นฐานของนวัตกรรมด้านโอเพ่นซอร์ส จุดเปลี่ยนสำคัญคือ เขาสามารถเปลี่ยน Red Hat Linux จากระบบปฏิบัติการที่ดาวน์โหลดได้ฟรี เป็น Red Hat Enterprise Linux (RHEL) ซึ่งเป็นโมเดลการใช้งานแบบสมัครสมาชิก (subscription) ความเป็นผู้นำของเขาทำให้เร้ดแฮทแข็งแกร่งในฐานะผู้นำอุตสาหกรรม พร้อมปูทางไปสู่นวัตกรรมแบบโอเพ่นซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของไฮบริดคลาวด์และไอทีสมัยใหม่ ปัจจุบัน RHEL เป็นแพลตฟอร์ม Linux ระดับองค์กรชั้นนำของอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนการทำงานขององค์กรในกลุ่มบริษัท Fortune 500 กว่า 90% และจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจทั่วโลกถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2565 เร้ดแฮทสร้างอนาคตให้กับไอทีระดับองค์กรโดยใช้ RHEL เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานให้กับโอเพ่นไฮบริดคลาวด์

นายคอร์เมียร์เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ด้านโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ก่อนคนอื่นๆ มาก เขาช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการใช้แอปพลิเคชันทุกประเภทจากที่ใดและบนโครงสร้างพื้นฐานใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ edge หรือภายในองค์กร ไปจนถึงมัลติพับลิคคลาวด์ ด้วยวิธีการที่ใช้ได้เหมือนๆ กัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นในฐานะประธานกรรมการบริษัทของเร้ดแฮท นายคอร์เมียร์จะมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้นำวิสัยทัศน์ดังกล่าวมาใช้ได้จริง และในตำแหน่งใหม่นี้ เขาจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านมาตรฐานเชิงกลยุทธ์และที่ปรึกษาหลักของเร้ดแฮท และจะมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องกับการขยายธุรกิจและช่วยให้ลูกค้านำเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สไปใช้สร้างสถาปัตยกรรมโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ให้ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ นายคอร์เมียร์จะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้นำเร้ดแฮทเกี่ยวกับกลยุทธ์การควบรวมกิจการต่างๆ ในอนาคต หลังจากที่เร้ดแฮทได้เข้าซื้อกิจการอื่นมาแล้วมากกว่า 26 ครั้ง ทั้งนี้นับตั้งแต่ไอบีเอ็มเข้าซื้อกิจการเร้ดแฮทในปี พ.ศ. 2562 นายคอร์เมียร์ได้มีบทบาทสำคัญในการเร่งขยายและพัฒนาบริษัทฯ ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นกลางทางการตลาดของบริษัทฯ ไว้เหมือนเดิม เขาจะทำงานร่วมกับนายอาร์วินด์ กฤษณะ ประธานกรรมการบริษัทและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของไอบีเอ็มต่อไป ทั้งนี้ นายคอร์เมียร์และนายฮิกส์จะรายงานตรงต่อนายกฤษณะ

Share: