แพทโก้ กรุ๊ป ปลื้มกระแสตอบรับ “THER LADPRAO 93” แรงเกินคาด
“แพทโก้ กรุ๊ป” เจ้าถิ่นอสังหาฯ แนวราบโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่ครองใจกลุ่มลูกค้ามากว่า 30 ปี ด้วยผลงาน 30 โครงการกว่า 6,000 ยูนิต เตรียมเดินหน้าลุยเปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่เพิ่ม 6 โครงการ กว่า 6 พันล้านบาท ในช่วง 2 ปีนี้ (ปี 2564-2565) ปลื้มกระแสตอบรับทาวน์โฮมแบรนด์หรู “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93” แรงเกินคาดทำยอดขายทะลุเป้าสวนวิกฤติโควิด-19 ชี้ฟังก์ชั่นบ้านตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคดิจิทัลด้วยระบบ ‘IoT Smart Home Automation’ เต็มขั้นทุกหลังในราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวเฟสใหม่ส่งท้ายปี 2564 เพิ่มอีก 25 ยูนิต
ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป และบริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไปแล้วกว่า 30 โครงการ จำนวน 6,000 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบภายใต้แบรนด์ “บ้านมารวย”, “วิคตอเรีย การ์เด้นวิลล์”,”วิจิตราธานี” และ “เดอะ รอยัล สามมุข” ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่อยู่ใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรม ย่านบางนา-ตราด, บางปะกง, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และสระแก้ว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและขายจำนวน 11 โครงการ แบ่งเป็นโครงการของบริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด จำนวน 2 โครงการ คือ วิจิตราธานี ทอสคานา และเดอะ รอยัล สามมุข ส่วนของบริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด จำนวน 4 โครงการ คือ มารวยริเวอร์ไซด์ 2, มารวย โสธร 4, มารวย สระแก้ว และมารวย อรัญ และโครงการของบริษัท แพทโก้ แพลตินัม จำกัด จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการวิคตอเรีย การ์เด้นวิลล์ มอเตอร์เวย์ และโครงการวิคตอเรีย การ์เด้นวิลล์ บางนา-ตราด
ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ที่เปิดตัวในปี 2564 ประกอบด้วย โครงการทรอฟี บ้านโพธิ์ บริหารโดยบริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด มีทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮมสไตล์อังกฤษ จำนวน 195 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท, โครงการเดอะ เทรดเชอร์ โฮม บริหารโดยบริษัทแพทโก้ แพลตินัม จำกัด ย่านบางนา-ตราด กม.34 เป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5-6 เมตร สไตล์โมเดิร์น ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท และโครงการเธอ ลาดพร้าว 93 บริหารโดยบริษัทวิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นทาวน์โฮมหรู 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 82 ยูนิต มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามแผนการดำเนินงานในช่วงปี 2564-2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท มีทั้งโครงการทาวน์เฮ้าส์ราคาตั้งแต่ 1 ล้านกว่าบาทขึ้นไปจนถึงบ้านแฝด และบ้านเดี่ยวระดับราคากลาง และทาวน์โฮมหรูราคากว่า 10 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่เพิ่มอีก 3 แบรนด์ คือ เดอะ เทรดเชอร์ โฮม (The Treasure Home ), เธอ ลาดพร้าว 93 (THER Ladprao 93 ), ทรอฟี (Trofy) และฮัตตัน (Hatton)
“แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะอยู่ในภาวะซบเซาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลกมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ ทำให้มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยลง ขณะที่กำลังซื้อของลูกค้าก็ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่บริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่ากำลังซื้อที่เป็นเรียลดีมานด์ยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าบ้านแนวราบ จึงได้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มครอบคลุมทุกเซ็กต์เม้นท์”
ดร.นวณัฐ สุขะมงคล รองประธานกรรมการ แพทโก้ กรุ๊ป และบริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทในเครือ กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการเธอ (THER) ลาดพร้าว 93 ว่า หลังจากเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าค่อนข้างดี ทำให้บริษัทฯ เตรียมแผนเปิดตัวบ้านเฟสใหม่เพิ่มอีก 25 ยูนิตในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากฟังก์ชั่นใช้สอยภายในตัวบ้านตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เน้นความเป็นส่วนตัว และพื้นที่ใช้สอยในบ้านที่เพิ่มขึ้น รองรับการทำงานที่บ้านหรือ Work From Home ซึ่งกำลังจะกลายเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้านขนาดใหญ่มากถึง 221-284 ตารางเมตร ในราคาขายเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท โดยได้ออกแบบให้เป็นสมาร์ททาวน์โฮมที่พร้อมด้วย IoT Smart Home Automation ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AIS Fiber ติดตั้งอินเทอร์เน็ต บ้าน speed 1000/500 Mbps นาน 1 ปีสำหรับลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านที่อาจจะต้องทำงานที่บ้าน รวมทั้งได้ร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงหรือ MEA เปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ และติดตั้งเครื่องชาร์จ EV ให้กับลูกบ้านได้ชาร์จฟรี รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าและรถ Hybrid ที่จะกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ คลับเฮ้าส์, ฟิตเนสรูม, ห้องโยคะ, สระว่ายน้ำ, ที่พักผ่อน, สวนสาธารณะ, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, กล้อง CCTV ทั่วบริเวณโครงการ และเข้า-ออกโครงการด้วย Access Card
