โรบินสันไลฟ์สไตล์ ตั้งมั่นเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือสังคม พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรร้านอาหารชั้นนำ ส่งมอบพลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ใน 24 โรงพยาบาล สู้วิกฤตโควิด-19

353
0
Share:

ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ตั้งมั่นในการเป็นศูนย์กลางเพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้โครงการ “CRC รวมพลัง กู้วิกฤตโควิด-19” ผ่านหลากหลายกิจกรรมเพื่อสังคม ที่พร้อมให้การสนับสนุนทั้งหน่วยงานภาครัฐ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบัน

 

 

นายจักรภพ ปิยะรัตน์ HEAD OF PROPERTY MANAGEMENT ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ในฐานะศูนย์การค้าฯ ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และเป็น Center of Community เรามีความพร้อมและตั้งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือและสนับสนุนสังคมไทยในทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาในช่วงวิกฤตการณ์ โควิด-19 ในปัจจุบัน ผ่าน 5 กิจกรรมเพื่อสังคมที่สำคัญ ซึ่งประกอบด้วย 2 กิจกรรมใหญ่ ได้แก่

1. ‘โรบินสันไลฟ์สไตล์ ส่งพลังใจ Fight โควิด–19’ ด้วยการผนึกกำลัง 4 พันธมิตรเครื่องดื่ม และร้านอาหารภายในศูนย์การค้าฯ ได้แก่ น้ำดื่มสิงห์, ฮะจิบัง ราเมน, มิสเตอร์ โดนัท, อานตี้ แอนส์ รวมทั้งร้านค้าท้องถิ่น ร่วมมอบถุงน้ำใจ ซึ่งประกอบด้วยอาหาร และเครื่องดื่ม จำนวน 3,000 ชุด รวมมูลค่ากว่า 700,000 บาท ให้แก่ทีมบุคลากรทางการแพทย์ผู้เสียสละทุกท่านใน 24 โรงพยาบาล ในจังหวัดที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ตั้งอยู่ทั่วประเทศ เพื่อแทนคำขอบคุณจากใจ และหวังว่าจะเป็นหนึ่งพลังใจ ที่จะส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ต่อไป

2. สนับสนุนภาครัฐในการกระจายและฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชน ด้วยการตอบรับนโยบายของสภาหอการค้าไทย ซึ่งอยู่ในทีม A ภายใต้การนำของ คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการเสนอพื้นที่ให้บริการแก่ภาครัฐจำนวน 20 สาขาทั่วประเทศ เพื่อเร่งกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึงให้คนไทย พร้อมจัดหาจิตอาสา อุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจแก่ทีมบุคลากรทางการแพทย์ผู้เสียสละทุกท่าน โดยจะเริ่มเปิดพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 6 เดือน อาทิ โรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาลาดกระบัง ลพบุรี สระบุรี ชัยภูมิ จันทบุรี เพชรบุรี ตรัง ฯลฯ โดยคาดว่าแต่ละสาขาจะมีประชาชนเข้ามารับบริการราว 500 – 1,500 คน ต่อวัน ทั้งนี้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนภายในศูนย์การค้าฯ เพียงแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีน รับส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์ฯ อาทิเช่น ร้านอาหาร, ขนมและเครื่องดื่ม, สินค้าแฟชั่น, สินค้าเสริมความงาม โรงภาพยนตร์, ฟิตเนส, ศูนย์บริการรถยนต์ และร้านค้าอื่นๆ อีกมายมาย

นอกจากนี้ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ยังจัดอีก 3 กิจกรรมย่อย เพื่อเป็นศูนย์กลางของลูกค้าที่ต้องการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังภาคส่วนต่างๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่

3. โครงการ “โรบินสันไลฟ์สไตล์ ทำด้วยใจ ไฟท์โควิด-19” (Help Thai Fight COVID-19) ร่วมสมทบทุนสนับสนุนงานวิจัยพัฒนากระบวนการรักษาและยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด -19 เพื่อมอบแก่แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมูลนิธิเตียง จิราธิวัฒน์ ซึ่งสามารถบริจาคผ่านการสแกน QR Code ที่ https://www.facebook.com/292542234564943/posts/1129524400866718/?d=n

4. เปิดพื้นที่สำหรับรับบริจาคโลหิตภายในศูนย์การค้าฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตลอดทั้งปี ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 11 ปี เพื่อบรรเทา และส่งต่อความช่วยเหลือไปยังสภากาชาดไทย และโรงพยาบาลที่ขาดแคลน และโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ยังได้มีการเชิญชวนพนักงานใน 24 สาขาทั่วประเทศ ร่วมกันบริจาคโลหิต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังโรงพยาบาล และผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วนอีกด้วย

5. เชิญชวนลูกค้าร่วมบริจาคกล่องกระดาษลูกฟูกเหลือใช้ เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นเตียงกระดาษ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา ซึ่งร่วมกับเอสซีจีพี เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือแก่โรงพยาบาลสนาม โดยสามารถบริจาคได้ที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ 3 สาขา ได้แก่ ลาดกระบัง, ศรีสมาน, สมุทรปราการ

“เราหวังว่าจากความร่วมมือร่วมใจทั้งหมด ที่เกิดจากความตั้งมั่นในการที่จะช่วยเหลือสังคมไทย จะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้คนไทยได้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันได้อย่างดีอีกครั้ง อีกทั้งจะช่วยให้ประเทศไทยได้กลับมาเดินหน้าต่ออย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายจักรภพ กล่าวทิ้งท้าย

Share: