PF ลุยธุรกิจถุงมือยาง เดินหน้าสร้างกำไร ลดหนี้

กลุ่มพร็อพเพอร์ตึ้ เพอร์เฟค เดินหน้าสร้างกำไร หวังเทิร์นอะราวด์ จากการขายที่ดิน การลงทุน และธุรกิจใหม่ถุงมือยาง ตั้งเป้าดันรายได้ทั้งกลุ่มปีนี้แตะ 2.13 หมื่นล้านบาท เปิด 5 โครงการใหม่

นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) หรือ PF ตั้งเป้าหมายให้ทุกบริษัทในกลุ่มพลิกกลับมามีกำไรในปี 2564 ด้วยการตัดขายที่ดินที่ไม่มีแผนพัมนาโครงการและสิทธิการเช่า รวมทั้งจะขายการลงทุนในโรงแรมและการจัดตั้งกองทรัสต์ รวมมูลค่า 2.02 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทั้งกลุ่มเติบโต มีความมั่นคงทางการเงินอย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นการสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นการปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจที่จะส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงจากปัจจุบันที่กว่า 2 เท่า เหลือเพียง 1.2 เท่า

สำหรับแผนการดำเนินงานของ PF ปีนี้ตั้งเป้าจะมียอดขายที่ 1.73 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 1.2  หมื่นล้านบาท โครงการร่วมทุน 2 พันล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมในประเทศ 2.5 พันล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น 800 ล้านบาท โดยจะเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มีมูลค่า 9.93 พันล้านบาท เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด ส่วนโครงการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ จะมี  1 โครงการ บนทำเลบางนา  – สุวรรณภูมิ ในคอนเซ็ปท์บ้านริมทะเลสาปขนาด 100 ไร่ มูลค่าโครงการ 5.1 พันล้านบาท ขณะเดียวกันยังจะรับรู้ยอดขายต่อเนื่องจาก 2โครงการร่วมทุนเดิมกับฮ่องกงแลนด์และซูมิโตโม่ ฟอเรสทรี

PF ยังจะมีการการรุกเข้าไปในเซกเมนต์ใหม่ ๆ ทั้งบ้านเดี่ยว 3 ชั้น และโฮมออฟฟิส 5 ชั้นในทำเลพหลโยธิน อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทไม่มีแผนจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากประเมินว่ายังได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ แต่คาดว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในปีหน้า

ขณะที่บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)ตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1.1 พันล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 500 ล้านบาท โครงการวิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรมปีนี้คาดว่า จะมีรายได้ราว 1.5 พันล้านบาท โดยจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย มีการทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโรคในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง  แต่บริษัทยังเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักเพราะรัฐบาลมีการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้ทั้งปีนี้อัตราการเข้าพักเฉลี่ย จะอยู่ที่ 50%

นายศานิต กล่าวว่า บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ยังได้ร่วมมือกับบริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน แกรนด์ โกลบอล โกลฟส์ จำกัด (GGG) มีสัดส่วนการถือหุ้น ฝ่ายละ  50.5% และ 49.5%  ตามลำดับ เพื่อทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงมือยางสังเคราะห์ ภายใต้แบรนด์ GGG คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปีนี้  3 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารหลังแรกจากจำนวนทั้งสิ้น 2 อาคาร บนเนื้องที่  21 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวนสายการผลิตรวม 16 สายการผลิต คิดเป็นกำลังการผลิต 4.2 ล้านกล่องต่อปี หรือประมาณ 4.2 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้

“การปรับกลยุทธ์ของเราจะทำให้พลิกกลับมามรกำไรเร็วที่สุด เราต้องการลดหนี้ให้เหลือน้อยๆ หากเป็นไปตามแผน เราต้องการที่จะถือเงินสด จึงยังไม่มีแผนที่จะซื้อที่ดินเพิ่ม แต่จะขายที่ดินออกและขายการลงทุนเข้าไปในกองรีทที่มีอยู่แล้ว แต่เราก็มองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถึงจุดต่ำสุดแล้วในช่วงไตรมาส 3 -4 ปีที่ผ่านมา พอไตรมาส 1 ปีนี้ภาพรวมจะอยู่ในภาวะทรงตัว ไม่น่าจะแย่ไปมากกว่านี้แล้ว”นายศานิตกล่าว