SCG ร่วมมือ MEA ลงนาม MOU โครงการพัฒนาธุรกิจ การให้บริการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

318
0
Share:

นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี พร้อมด้วย นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาธุรกิจ การให้บริการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ระหว่างบริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด กับ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เพื่อพัฒนาและขยายตลาดการให้บริการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่มบ้านพักอาศัย และกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ ตลอดจนพัฒนารูปแบบธุรกิจและบริการของโครงการให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด โดยมี SCG และ MEA เป็นผู้ให้บริการ โดยมีนายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ Vice President – Housing Products and Solution Business และนายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Service Solution Business ร่วมงาน ณ โถงรับรอง สำนักงานใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ บางซื่อ

นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า SCG มุ่งเน้นหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เป็นกรอบในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เป้าหมายนี้บรรลุผลได้คือการผลักดันสินค้าและบริการด้านพลังงานสะอาด อย่าง ‘เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน’  ซึ่งต่อยอดและพัฒนามาจากการที่เอสซีจีเป็นผู้ผลิตและผู้เชี่ยวชาญด้านหลังคามาอย่างยาวนาน  เล็งเห็นว่าต่อไปหลังคาจะไม่ได้เป็นแค่หลังคาบ้าน แต่จะเป็นหลังคาที่ผลิตพลังงานได้ จึงผลักดันและต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยร่วมมือและผสานจุดแข็งของ MEA ในด้านเครือข่ายที่แข็งแกร่ง บุคลากรผู้เชี่ยวชาญของการไฟฟ้า พัฒนารูปแบบธุรกิจและการให้บริการด้านระบบโซลาร์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตลอดจนขยายตลาดการให้บริการให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มบ้านอยู่อาศัย กลุ่มธุรกิจ และกลุ่มอุตสาหกรรม

ในด้านของ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง มีนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่าในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีความมุ่งมั่นในการส่งมอบพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองการใช้พลังงานทดแทนตามนโยบายของรัฐบาล จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เอสซีจี ลีฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด พัฒนารูปแบบธุรกิจและการให้บริการด้านระบบโซลาร์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงร่วมกันพัฒนาสินค้า และบริการอื่น เช่น การบริหารจัดการพลังงาน EV Home Charger เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมในการผลิต และใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น

 

 

Share: