ttb analytics คาดยอดขายรถยนต์ปี 2564 หดตัวต่อจากปีก่อน เหตุโควิดเดลต้ากระทบกำลังซื้อ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 7.35 แสนคันในปี 2564 ลดลง 7.1% จากปีก่อน โดยปัจจัยฉุดรั้งจากการระบาดของโรคโควิด-19 และกำลังซื้อที่เปราะบาง แม้จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นมาช่วย ลุ้นปี 2565 ยอดขายจะทยอยกลับมาสู่ระดับปกติที่ 8.6 แสนคัน หลังประชากรได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง แนะภาคเอกชนกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการทำ Bubble and Seal (มาตรการสกัดเชื้อโควิด ป้องกันลามสู่ภาคการผลิต) อย่างเป็นระบบ เพื่อรักษาซัพพลายเชนการผลิตไม่ให้หยุดชะงัก
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 ได้แพร่กระจายนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมรวมกว่า 6.64 แสนคน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2564) ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศให้ชะลอตัวลง สำหรับยอดขายรถยนต์ในประเทศ แม้ว่าครึ่งแรกของปี 2564 จะสามารถทำยอดขายได้ 373,191 คัน หรือ ขยายตัว 13.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 แต่เป็นการเพิ่มขึ้นที่มาจากฐานที่ต่ำในปี 2563 ที่หดตัว 37.3% ซึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อที่หายไปจากการล็อกดาวน์ติดต่อกัน 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2563) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระลอกแรก
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินปี 2564 ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะอยู่ที่ 7.35 แสนคัน หรือ หดตัว 7.1% จากปีก่อน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยยอดขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 3 เป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ และกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง ก่อนที่ในไตรมาสที่ 4 ยอดขายจะเริ่มทยอยฟื้น โดยได้รับอานิสงส์จากการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมกว่า 70% ของประชากรรวมในประเทศตามแผนของภาครัฐ ผนวกกับได้แรงพยุงจากการส่งออกที่ฟื้นตัว และรายได้เกษตรกรที่ดีขึ้นจากราคาและผลผลิตที่ดีขึ้น
ปี 2564 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะได้รับผลกระทบหนักกว่ารถยนต์เชิงพาณิชย์ โดยคาดว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะหดตัว 11.1% ในขณะที่รถยนต์เชิงพาณิชย์จะหดตัว 4.1% เนื่องจากการแพร่ระบาดจะบั่นทอนกำลังซื้อและความเชื่อมั่นให้ลดลง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งความต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสูงกว่ารถยนต์เชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ จากสถิติกรมขนส่งทางบกพบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ป้ายแดง ขยายตัว 4.2% จากช่วงเดียวกันของปี2563 ที่หดตัว 24.1% โดยพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลยังหดตัวต่อเนื่องที่ 1.9% ขณะที่พื้นที่เศรษฐกิจที่พึ่งพาภาคธุรกิจการส่งออกและภาคเกษตร ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ เริ่มกลับมาขยายตัวได้ 12.2% 12.1% และ 11.8% ตามลำดับ ดังนั้น หากการแพร่ระบาดบรรเทาลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 นี้ พื้นที่เศรษฐกิจที่พึ่งพิงภาคธุรกิจการส่งออกและภาคเกษตรคาดว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่า ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความต้องการรถยนต์เชิงพาณิชย์มากกว่าทำให้ยอดขายจะกลับมาฟื้นได้ก่อนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล