“พร็อพฟิต” พลิกวงการนายหน้าอสังหาฯไทย ฉีกกฎการขายด้วยเทคโนโลยี

340
0
Share:

พร็อพฟิต พลิกวงการเอเจนซีอสังหาฯ ไทย ด้วย Online Agent Platform และ Business Model รูปแบบใหม่ ฉีกกฎการขายเดิมด้วยเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “ดีลครบ จบง่าย ได้มากกว่า” วางเป้าขึ้นแท่น เครือข่ายนายหน้าอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในไทย หลังสร้างผลงานยอดขายแตะ 2,000 ล้าน ในระยะเวลาเพียง 18 เดือน

นายฐิติพันธ์ เผ่าทรง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหารบริษัท พร็อพฟิต จำกัด (Founder & CEO) เปิดเผยว่า จากขอบเขตการพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยีประกอบกับตลาดอสังหาฯ ไทยที่มีนายหน้าเก่งๆ ที่เป็นฟรีแลนซ์อยู่จำนวนมาก กลุ่มผู้ก่อตั้ง Propfit ที่มีประสบการณ์โดยตรงจากธุรกิจอสังหาฯ จึงมองเห็นโอกาสในการ Disrupt โครงสร้างธุรกิจและตัดสินใจเปิดตัว Propfit (พร็อพฟิต) ซึ่งเป็น Online Agent Platform ที่ใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มศักยภาพให้กับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ให้สามารถทำงานร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทำให้ช่วยปิดการขายได้ไวและมีรายได้มากขึ้น นับเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ที่จะมาปฏิวัติวงการตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์จากรูปแบบเดิม

“เรามองเห็นช่องว่างธุรกิจจาก 2 ประเด็น คือหนึ่ง แม้ปัจจุบันผู้บริโภคจะคุ้นชินกับการซื้อขายออนไลน์เองโดยตรง แต่สินค้าประเภท high-Involvement อย่างอสังหาริมทรัพย์ยังมีความจำเป็นที่ผู้บริโภคต้องเข้าเยี่ยมชมโครงการเพื่อเปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อ จึงทำให้ที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญ พนักงานขาย และนายหน้ามีความสำคัญในกระบวนการขายและการตัดสินใจของผู้บริโภค  ข้อสองคือความผันผวนของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 1-2 ปีนี้ เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการทำธุรกิจในรูปแบบเดิม โดยเฉพาะองค์กรที่มีความยืดหยุ่นน้อย การบริหารทีมงานแบบเดิมๆ จะสู้กับคู่แข่งที่ปรับตัวได้เร็วและดีกว่าไม่ได้ จึงนับเป็นข้อได้เปรียบขององค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งในทั้งสองข้อนับเป็นโอกาสในธุรกิจของเรา” นายฐิติพันธ์ เผ่าทรง Founder & CEO ของ Propfit กล่าว

Propfit” เป็นแพลตฟอร์มตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้า (Disrupt ) การขายแบบเดิม ๆ ด้วยรูปแบบการทำงาน ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ดีลครบ จบง่าย  ได้มากกว่า” ศูนย์รวมคอนโดฯ สำหรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างช่องทางการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะการสร้างเครือข่ายในรูปแบบของ Online Agent Platform ที่มีขนาดใหญ่และมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด สามารถเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมทุกพื้นที่ ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” ระหว่างเครือข่ายของ “ตัวแทนขาย/นายหน้าอสังหาริมทรัพย์” (Property Agent) และ “ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์” (Property Developer) ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็กให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อปิดการขายโครงการอสังหาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 นอกจากนี้ Propfit จะช่วยลดต้นทุน จากการนำเสนอวิธีการขายในรูปแบบใหม่ โดยผู้ประกอบการฯ ไม่จำเป็นต้องมี Fixed Cost ต้นทุนสำหรับการตั้งทีมขายของตัวเอง ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในสภาพตลาดที่มีความผกผัน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ปัจจุบันได้อย่างดี ด้วย 3 เครื่องมือสนับสนุนที่ใช้งานง่าย บริหารจัดการจบด้วยตัวเองได้ทันที ได้แก่ 1.Stock inventory ช่วยให้สามารถเข้าถึงสต๊อกโครงการต่าง ๆ กว่า 8,000 ยูนิต 2.Proposal module สามารถส่งข้อมูลรายการให้ลูกค้าสะดวกและเรียลไทม์ 3.Sales Pipeline Management ระบบบริหารการขายประสิทธิภาพสูง (Free beta) โดยเครือข่ายนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จะได้รับข้อมูลสนับสนุนจาก Propfit ทั้งด้านการตลาดและบริการด้านการขาย (Marketing & Sale Service ) ตอบโจทย์การขายอสังหาริมทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มยอดขาย และลดต้นทุนด้านการตลาด โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งทีมขาย

“ข้อได้เปรียบสำหรับการทำงานกับแพล็ตฟอร์มของ Propfit คือ “Matching Mechanism” หรือระบบที่ Propfit เก็บข้อมูลเป็นรายสัปดาห์ ที่จะช่วยจับคู่ระหว่างยูนิตคอนโดมิเนียมเข้ากับความถนัดเฉพาะตัวของแต่ละตัวแทนขาย/นายหน้าอสังหาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่ตัวแทนขายหรือนายหน้าอสังหาฯ ในแต่ละกลุ่มจะมีความถนัดเฉพาะตัว ทั้งในเรื่องของราคา พื้นที่ รวมถึงฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกกลุ่มนายหน้าให้เหมาะกับโครงการ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดันให้นายหน้าสามารถปิดการขายได้รวดเร็ว นอกจากนี้ Propfit ยังมีประสบการณ์ทำการตลาดให้กว่า 90 โครงการในเกือบทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ผ่านแพล็ตฟอร์มดิจิทัล ที่มีข้อมูลลูกค้าครอบคลุมและอัปเดตอยู่ตลอด จึงเหมาะกับผู้ประกอบการฯ ที่เปิดโครงการใหม่ ที่ยังไม่เคยทำการตลาดจับกลุ่มลูกเป้าหมายในทำเลนั้น ๆ มาก่อน ซึ่งจะช่วยให้ทำการตลาดขายได้เร็วขึ้นและใช้งบน้อยลง” นายฐิติพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทเปิดตัว Propfit ในระยะเวลาเพียง 18 เดือน พบว่ามีการตอบรับที่เกินความคาดหมาย โดยได้รับความเชื่อมั่นจากทั้งอสังหาฯ รายใหญ่ อาทิ เอพี, อนันดา, พฤกษา และแสนสิริ ฯลฯ และบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายกลาง อาทิ Asset 5 และ Divine Development รวมทั้งเครือข่ายนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่สนใจร่วมงานกับบริษัทมากกว่า 900 รายและมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากโครงสร้างส่วนแบ่งคอมมิชชั่นที่สูงกว่าในระดับปกติและการสนับสนุนด้านแพล็ตฟอร์มการทำงานที่ทำให้ปิดดีลได้ง่ายขึ้น สามารถเข้าถึงรายการอสังหาริมทรัพย์ในสต๊อกกว่า  8,000 รายการ และรับลูกค้าจากระบบเพื่อเริ่มปิดการขายได้ทันที โดยล่าสุด Propfit สามารถทำยอดขายคอนโดมิเนียมแล้วคิดเป็นมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง ซึ่งนับเป็นบทพิสูจน์ถึง Business model ใหม่ ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจได้โดยไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางเป้าหมายทางธุรกิจ โดยตั้งเป้าเป็นเครือข่ายนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยในปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 3,200 ล้านบาท

Share: