จาก LIVE สู่ Livelihood: TikTok Shop จุดพลังผู้ประกอบการไทยรุ่นใหม่
ในโลกที่เทรนด์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คือ “LIVE Commerce” ไม่ใช่อนาคตอีกต่อไป — แต่มันกำลังเปลี่ยนชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ผู้คนในประเทศไทยกำลังเขียนเรื่องราวชีวิตของตัวเองขึ้นใหม่ ไม่ใช่ด้วยงบการตลาดมหาศาลหรือทีมอีคอมเมิร์ซมืออาชีพแต่ด้วยโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว ความคิดสร้างสรรค์ และพลังของ TikTok Shop ตั้งแต่เกษตรกร นักออกแบบแฟชั่น ไปจนถึงครีเอเตอร์ออนไลน์ คลื่นลูกใหม่ของ “ผู้ประกอบการนักเล่าเรื่อง” ได้ถือกำเนิดขึ้น
(ภาพจากซ้ายไปขวา: คุณบุบผา พรมจักร เจ้าของร้าน “Bupba_Shop189, คุณชลธิชัย จ่าเพ็ง เจ้าของช่อง “เตอร์คุง” และ คุณกัญญาณัฐ ถาวรสุภเจริญ เจ้าของช่อง “วันนี้เต้ยเต้ยแต่งอะไร”)
อีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนผ่านชีวิต จาก LIVE สู่ Livelihood
TikTok Shop ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางการขายแต่เป็นประตูสู่การค้นพบ (Discovery commerce) ที่ผู้คนสามารถค้นพบสินค้า ครีเอเตอร์ และไอเดียใหม่ๆ โดยที่บางครั้งพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่ากำลังมองหา การส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและครีเอเตอร์ไทยให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือ LIVE รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลการไลฟ์ และการสนับสนุนแบบครบวงจร TikTok Shop ช่วยให้คนไทยเปลี่ยน “สมาร์ทโฟน” ให้กลายเป็น “หน้าร้าน” และผู้คนธรรมดากลายเป็น “ผู้ประกอบการในยุค Shoppertainment”
หน้าร้านออนไลน์ไร้พรมแดน มีแค่โทรศัพท์และความฝันก็เริ่มต้นธุรกิจได้
TikTok Shop ลดกำแพงการเริ่มต้นธุรกิจให้กับผู้คนในประเทศไทย คุณบุบผา พรมจักร เจ้าของช่อง “Bupba_Shop189” และสามีที่เคยเป็นพนักงานโรงงาน เริ่มต้นธุรกิจขายสินค้าในฐานะ Affiliate Creator โดยใช้เพียงมือถือเครื่องเดียวและสไตล์การรีวิวสินค้าที่จริงใจจนสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ สำหรับครีเอเตอร์ LGBTQ+ อย่าง คุณชลธิชัย จ่าเพ็ง เจ้าของช่อง “เตอร์คุง” และ คุณกัญญาณัฐ ถาวรสุภเจริญ เจ้าของช่อง “วันนี้เต้ยเต้ยแต่งอะไร” พวกเขาใช้ TikTok LIVE เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงตัวตนและสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแรงพร้อมรายได้ที่มั่นคง
ไลฟ์สร้างอาชีพที่ยั่งยืน
TikTok Shop ไม่ได้แค่สร้างยอดขาย แต่สร้างรายได้ให้กับคนในชนบท ผู้สูงอายุ และครอบครัวขนาดเล็ก คุณณัฐสุดา จั่นบางยาง จาก “ปลาวัน Farm to Table” ในเชียงใหม่ ใช้ TikTok LIVE ถ่ายทอดตั้งแต่เกษตรอินทรีย์จนถึงจานอาหาร ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 25% และฐานลูกค้าใหม่มาจาก TikTok ถึง 95% คุณนริศตา กรภัสร์วานิชย์ นำธุรกิจ “Tinybity” แบรนด์เสื้อผ้าไซซ์ใหญ่ สร้างงานให้กับคุณยายช่างเย็บอายุ 60–80 ปีทำงานจากที่บ้านด้วยศักดิ์ศรี คุณสุรีรัตน์ ทรัพย์เสรีชัย พยาบาลเกษียณผู้ก่อตั้ง “Oriental Coffee” เปลี่ยนแบรนด์กาแฟให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้และช่องทางช่วยเหลือชุมชน และ คุณชนนิกานต์ กุลยิ่งรุ่งเรือง ผู้ก่อตั้ง “Snackies” นำผลไม้ไทยมาแปรรูปเป็นขนมยอดฮิต ไลฟ์ครั้งแรกมีคนดูถึง 70,000 คน
พลังของสินค้าและวัฒนธรรมท้องถิ่นไทย
TikTok Shop ทำให้ของดีในท้องถิ่นกลายเป็นไวรัล คุณนาราพิมพ์ ราชลี เจ้าของ “กระติ๊บข้าวเหนียว พิกุลเกล้า” นำการสานกระติ๊บไม้คล้าแบบโบราณกลับมาทำรายได้ พร้อมสร้างงานให้ช่างฝีมือกว่า 20 คนในชุมชน ด้าน คุณเบญชญา แสงเจริญลาภสกุล ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง “Benela” ใช้ผ้าไทยทำแฟชั่นโมเดิร์น เน้นความยั่งยืนผ่านการผลิตที่ใส่ใจทุกขั้นตอน ถ่ายทอดให้ลูกค้าเห็นสดๆ ผ่านไลฟ์ คุณณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ หรือเชฟอิน เจ้าของช่อง “เชฟอิน กำลังอิน” จากระนอง ผสมภาษาถิ่นเข้ากับสูตรอาหารบ้านเกิด จนร้านเล็กๆ กลายเป็นจุดหมายของนักชิมทั่วประเทศ
เสริมทักษะดิจิทัล สู่เจ้าของแบรนด์มืออาชีพ
จากทุ่งนาและครัวพื้นบ้าน สู่การไลฟ์ที่การเข้าถึงผู้ชมทั่วประเทศ ผู้ประกอบการไทยเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” และ “เทคโนโลยี” สามารถเติบโตเคียงข้างกันได้อย่างลงตัว คุณรณชัย อเปสริยโย เจ้าของ ข้าวสังข์หยด จากชาวนาสู่ผู้ประกอบการมืออาชีพ ใช้ TikTok Shop เป็นเครื่องมือในการขยายธุรกิจ โดยยึดมั่นในอัตลักษณ์ท้องถิ่นผสานกับการตลาดออนไลน์ ดึงเกษตรกรในชุมชนมาร่วมสร้างห่วงโซ่อุปทานขนาดย่อม พร้อมเล่าเรื่องแบรนด์ผ่านการไลฟ์สดบน TikTok จนสามารถสร้างแบรนด์ เพิ่มยอดขาย และขยายผลกระทบสู่คนในพื้นที่ได้ในคราวเดียว ขณะเดียวกัน ดร.ณัฐวัตร ตันศิริเสถียร เจ้าของเมนูดังประจำจังหวัดตรัง ป้าพิณลำภูรา ซาลาเปาทอดไส้ครีม ก็ได้นำของดีท้องถิ่นมาสู่โลกออนไลน์ หลังใช้เวลาหลายสิบปีพัฒนาสินค้าผ่านโครงการ OTOP และการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ โดยยังคงรักษาวิธีการทำแบบดั้งเดิม เช่น การนึ่งไส้ครีมด้วยเตาถ่าน และเมื่อได้รับการอบรม TikTok Shop เขาก็สามารถปิดยอดขายได้ถึง 20 ชุดตั้งแต่การไลฟ์สดครั้งแรก พิสูจน์ว่าแม้แต่ธุรกิจที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาดั้งเดิม ก็สามารถปรับตัวและเติบโตบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างประสบความสำเร็จ เรื่องราวของพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงพลังของเครื่องมือดิจิทัล ที่ช่วยเปิดโอกาสใหม่ทางรายได้ รักษาอัตลักษณ์ท้องถิ่น และขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น.
เรื่องราวของครีเอเตอร์และเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนี้ ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจ แต่ได้กลายเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าเครื่องมือที่ใช่และแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้กับคนธรรมดาสามารถ เปลี่ยน “ความคิดสร้างสรรค์” ให้กลายเป็น “รายได้” เปลี่ยน “วัฒนธรรม” ให้กลายเป็น “โอกาสทางธุรกิจ” และเปลี่ยน “วิถีชีวิต”ให้กลายเป็น “อาชีพ”เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนได้
แพลตฟอร์มที่ไม่เพียงนำเสนออีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่ แต่พลิกโอกาสจาก LIVE สู่ Livelihood