อาลีบาบา คลาวด์ ประกาศแผนขยายธุรกิจสู่นานาชาติ เติมพลังขับเคลื่อนนวัตกรรม AI ยุคหน้า

201
0
Share:

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศแผนกลยุทธ์ล่าสุดในการเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในประเทศบราซิล ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งมีแผนเพิ่มศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และดูไบในปีหน้า การขยายตัวเชิงกลยุทธ์นี้ประกาศในงานประชุมเทคโนโลยีประจำปี Apsara Conference 2025 โดยจะรวมถึงการจัดตั้งศูนย์บริการระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในอินโดนีเซียและเยอรมนี เพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงในหลายภาษา ต่อยอดจากปัจจุบันที่อาลีบาบา คลาวด์ มี availability zones จำนวน 91 แห่งใน 29 ภูมิภาคทั่วโลก

 

 

ดร. เฟยเฟย ลี ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและรองประธานอาวุโสของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป กล่าวว่า “AI กำลังปฏิวัติไม่เพียงแค่เทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงรากฐานสำคัญของวิธีการที่องค์กรสร้างคุณค่าทางธุรกิจและขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรอีกด้วย กลยุทธ์การขยายโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของเราออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากลูกค้าที่มองการณ์ไกล อาลีบาบา คลาวด์ อยู่ในแนวหน้าของนวัตกรรมด้าน AI และได้ร่วมกับลูกค้าของเราพัฒนาโซลูชัน AI และคลาวด์แบบครบวงจรที่สนับสนุนธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา เราพร้อมช่วยเหลือพันธมิตรและลูกค้าในการออกแบบ เปิดตัว และขยายขนาดของ AI agents และแอปพลิเคชัน AI ที่ก้าวล้ำ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลรุ่นใหม่และปลดล็อกคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในตลาดโลก”

อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดโครงการ AI Catalyst Program เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตและขยายขนาดของบริษัทด้าน AI ทั่วโลก บริษัทที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญระดับอุตสาหกรรม เข้าถึงผลิตภัณฑ์และเครื่องมือด้าน AI รวมถึงทรัพยากรอื่นสำหรับการเข้าสู่ตลาด ซึ่งรวมถึงโทเค็นฟรีสูงสุด 2 พันล้านโทเค็นบนแพลตฟอร์ม Model Studio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการพัฒนา generative AI แบบครบวงจรของอาลีบาบา คลาวด์ และเครดิตคลาวด์สูงสุด 120,000 เหรียญสหรัฐฯ จากอาลีบาบา คลาวด์ ด้วย

ขับเคลื่อนนวัตกรรม AI ของพันธมิตรและลูกค้าทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยี AI และคลาวด์แบบครบวงจร

บริษัทระดับโลกจำนวนมากกำลังร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อใช้ AI ขยายขอบเขตการดำเนินงาน แอปพลิเคชันที่ล้ำสมัยที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กีฬา ยานยนต์ เภสัชกรรม การตลาด และเทคโนโลยี ได้แสดงให้เห็นคุณค่าของ AI ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโต

อาลีบาบา คลาวด์ ประกาศรวม Platform for AI (PAI) ของบริษัทฯ เข้ากับชุดซอฟต์แวร์ Physical AI ของ NVIDIA เต็มรูปแบบ ซึ่งนับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับ Physical AI ความร่วมมือนี้ช่วยให้นักพัฒนามีแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟที่ครบวงจร ช่วยเร่งความก้าวหน้าในงานพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ (humanoid) และโซลูชัน Physical AI ความร่วมมือนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาลีบาบา คลาวด์ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมบน Physical AI รวมถึงความพร้อมในการมอบเครื่องมือและความคล่องตัวให้กับนักพัฒนาเพื่อเปิดทางสู่การพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่รวดเร็วขึ้น

อาลีบาบา คลาวด์ ร่วมมือกับสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ (ISU) และ ThinkSport ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมและศูนย์ความเป็นเลิศที่ก่อตั้งโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) โดยเปิดตัวการแข่งขัน Sports Data Hack Challenge ซึ่งเป็นเวที AI Hackathon ที่มุ่งไปที่ตลาดยุโรป ระยะเวลาการแข่งขันตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2568 โปรแกรมการแข่งขันนี้จะใช้เทคโนโลยี AI และคลาวด์ที่เชื่อถือได้ของอาลีบาบา คลาวด์ เข้ามามีส่วนร่วมกับระบบนิเวศนวัตกรรมกีฬาของยุโรป ตั้งแต่สตาร์ทอัพ นักพัฒนา นักวิชาการ และผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อเร่งการนำ AI และคลาวด์มาใช้ในวงการกีฬา สร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจ และเปลี่ยนแนวคิดที่ชนะการแข่งขันให้กลายเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ที่ใช้งานจริง

บริษัทเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่ “แอสตร้าเซนเนก้า ไชน่า” (AstraZeneca China) ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) Qwen และ Model Studio ของอาลีบาบา คลาวด์: Exclusive solution ที่ใช้สร้างเครื่องมือรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในจีน ช่วยให้ผู้ตรวจสอบของบริษัทยาที่เป็นมนุษย์สามารถระบุเอกสารที่เกี่ยวข้องและสร้างรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากยาได้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับรองความปลอดภัยของยา ขณะเดียวกัน แอสตร้าเซนเนก้ายังใช้เทคโนโลยี AI ของอาลีบาบา คลาวด์ สร้างเอเจนต์อัจฉริยะสำหรับองค์กร และแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของแอสตร้าเซนเนก้าในจีน

การฝึกโมเดลด้วยเอกสารทางการแพทย์และบทความวิชาการจำนวนมหาศาล ร่วมกับการปรับแต่งด้วยชุดข้อมูลที่กำหนดเองของอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้บริษัทฯ สามารถช่วยแอสตร้าเซนเนก้าสร้างโมเดลเฉพาะทางด้านการแพทย์ที่มีความเข้าใจในเชิงลึกในสาขานี้เป็นของตัวเอง โมเดลนี้สามารถระบุข้อมูลความปลอดภัยที่สำคัญจากเอกสาร และสรุปด้วยความแม่นยำถึง 95% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทั้งหมด 300% เมื่อเทียบกับการวิเคราะห์ของมนุษย์

นายซิน จง หัวหน้าฝ่ายไอทีเชิงพาณิชย์ของแอสตร้าเซนเนก้า ไชน่า กล่าวว่า “การทำงานอย่างใกล้ชิดกับอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จาก Qwen LLM และ Model Studio: Exclusive ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากเอกสารทางการแพทย์จำนวนมากได้อย่างมาก เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำนวัตกรรมนี้ในอุตสาหกรรม และคาดหวังที่จะสำรวจความเป็นไปได้ด้านนวัตกรรมที่ใช้ AI อื่นเพิ่มเติมกับอาลีบาบา คลาวด์”

ชิเซโด้ (Shiseido) ผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและความปลอดภัยในการดำเนินงานในจีน โดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Cloud Threat Detection and Response (CTDR) ที่ล้ำสมัยของอาลีบาบา คลาวด์ ชิเซโด้ใช้ AI ขั้นสูงเพื่อวิเคราะห์การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ โดย CTDR สามารถรวมการแจ้งเตือนที่กระจัดกระจาย ให้เป็นเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ครบถ้วน ด้วยการสร้างห่วงโซ่การโจมตีที่ชัดเจนจากเบาะแสที่ซับซ้อน ก่อนจะระบุตัวผู้กระทำความผิด ช่วยให้ชิเซโด้สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ บริการ Managed Detection and Response (MDR) ของอาลีบาบา คลาวด์ ยังมอบการป้องกันเชิงรุก ให้บริษัทตามล่าภัยคุกคาม สืบสวนและตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความมั่นใจต่อความต่อเนื่องและความยืดหยุ่นของธุรกิจชิเซโด้

นายเจอร์รี่ หลิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของชิเซโด้ ไชน่า และทราเวล รีเทล จาก ชิเซโด้ ไชน่า กล่าวว่า “ความปลอดภัยไม่ใช่เพียงข้อกำหนดด้านเทคนิคที่ควรมี แต่เป็นสิ่งจำเป็นเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตของเราในจีน การเป็นพันธมิตรกับอาลีบาบา คลาวด์ ทำให้เรามั่นใจในการขยายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างปลอดภัย การตรวจจับภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI และบริการจากผู้เชี่ยวชาญช่วยให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ความงามที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า โดยรู้ว่าโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของเราในจีนได้รับการปกป้องด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง”

เกลดคูบ (GladCube) ผู้ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัลชั้นนำ ได้ร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชัน AI ที่ล้ำสมัยที่ปรับให้เหมาะกับตลาดดิจิทัลของญี่ปุ่น ซึ่ง GladCube มุ่งหวังที่จะเร่งขั้นตอนการพัฒนาเนื้อหาให้เร็วขึ้น และส่งมอบคุณค่าที่วัดผลได้ให้กับลูกค้าทั่วทั้งอุตสาหกรรมด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ของอาลีบาบา คลาวด์ รวมถึงเทคโนโลยี AI คุณภาพระดับโลก

การรวมโมเดลสร้างรูปภาพ Wan ของอาลีบาบา เข้ากับแพลตฟอร์มแปลงวิดีโอแนวตั้ง ‘Dra Vis’ นั้นช่วยให้ GladCube สามารถผลิตวิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ของทีมการตลาด นอกจากนี้ GladCube จะเปิดตัว AvaTwin บริการอวาตาร์ AI ที่ขับเคลื่อนด้วย Wan ซึ่งผสมผสานอวาตาร์ดิจิทัลเข้ากับการให้เสียงบรรยายที่ AI สร้างขึ้น วิดีโอที่ได้จะเหมาะสำหรับการสื่อสารในองค์กร เช่น การประกาศผลประกอบการ การประกาศวาระการประชุมผู้ถือหุ้น และการทำแคมเปญสรรหาบุคลากร

นายฮิโรกิ คาเนชิมะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GladCube กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นสู่เป้าหมายสองประการ ทั้งความเป็นเลิศด้านความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพการพัฒนาเนื้อหาด้วยการใช้ประโยชน์จาก generative AI ความร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่เรามั่นใจว่าจะปฏิวัติการผลิตเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ และจะกำหนดอนาคตของการตลาดดิจิทัลในญี่ปุ่นต่อไป”

FLUX สตาร์ทอัพด้าน AI ที่อยู่ในโตเกียว ได้พัฒนา FLUX-Japanese-Qwen ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับภาษาญี่ปุ่นที่มีพารามิเตอร์ 32 พันล้านตัว และเป็นโมเดลโอเพ่นซอร์สที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการวัดผลเบนช์มาร์กเกณฑ์มาตรฐานภาษาญี่ปุ่น โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์พื้นฐาน การสรุป และการสร้างโค้ด ซึ่งเป็นผลจากรากฐานด้านความรู้ การใช้เหตุผล และภาษาญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งมาก

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโมเดลนี้คือวิธีการ Pinpoint-tuning ที่ไม่เหมือนใคร แทนที่จะปรับแต่งทั่วทั้งโมเดล ซึ่งมักทำให้ความสามารถด้านการใช้เหตุผลและการอนุมานลดลง โมเดลนี้จะระบุและปรับแต่งเฉพาะส่วน neural circuit ที่รับผิดชอบการประมวลผลภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ความแม่นยำนี้ช่วยให้การเข้าใจและการสร้างภาษาญี่ปุ่นดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ยังคงรักษาความสามารถดั้งเดิมของโมเดลไว้อย่างครบถ้วน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนความร่วมมือกับ Alibaba Tongyi Lab ซึ่ง FLUX ได้ใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนา FLUX-Japanese-Qwen และสร้างโมเดลเฉพาะอุตสาหกรรมแรกสำหรับภาคการเงิน

ด้วยการใช้ Pinpoint-tuning กับชุดข้อมูลภาษาญี่ปุ่นที่เฉพาะเจาะจงในด้านการเงิน ซึ่งถูกต้องทั้งในแง่กฎระเบียบ แนวปฏิบัติทางธุรกิจ และการพัฒนาอุตสาหกรรม โมเดลที่สร้างมาเฉพาะทางด้านการเงินนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านการเงิน ด้วยการตอบสนองที่เชื่อถือได้และเข้าใจบริบท ช่วยผลักดันให้เกิดการนำ AI มาใช้ในภาคส่วนนี้อย่างแพร่หลาย

เทอร์โบ เอไอ (Turbo AI) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำ ใช้โครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ล้ำสมัยของอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อให้บริการโซลูชันแบบบูรณาการที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคกับไลฟ์ไซเคิลของ AI ทั้งหมด ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาโมเดลไปจนถึงการปรับใช้และการประยุกต์ใช้จริง โซลูชันเหล่านี้ครอบคลุมกรณีการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การดำเนินการโมเดลขนาดเล็ก ไปจนถึงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

นายหยวน ลู หัวหน้าฝ่ายบิ๊กดาต้าของ Turbo AI กล่าวว่า “ด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยของอาลีบาบา คลาวด์ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรอัจฉริยะ Turbo AI สามารถกำหนดค่าและปรับขนาดทรัพยากรการประมวลผลได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุนของเวิร์กโหลด AI ฐ์ของลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ”

 

Share: