เสริมศักยภาพอนาคตดิจิทัลของไทย ด้วยนวัตกรรม AI และ Cloud
เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากแรงหนุนของภาครัฐ ภาคเอกชน และความต้องการคลาวด์และ AI ประสิทธิภาพสูงที่เพิ่มมากขึ้น องค์กรธุรกิจต่างนำเครื่องมือดิจิทัลหลากหลายไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพิ่มประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้ลูกค้า และเปิดประตูสู่โอาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ ส่งผลให้คลาวด์และ AI กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของประเทศ
รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศให้เป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาคผ่านยุทธศาสตร์สามประการคือ การปลูกฝังผู้มีความสามารถด้าน AI, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพสูง และ เร่งการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมหลักต่างๆ ให้ได้อย่างรวดเร็ว มีการตั้งเป้าที่จะฝึกอบรมผู้ใช้ AI จำนวน 10 ล้านราย, มืออาชีพด้าน AI จำนวน 90,000 ราย และ นักพัฒนาด้าน AI จำนวน 50,000 ราย ภายในสองปี ควบคู่กับการลงทุนด้านระบบคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ และแพลตฟอร์ม open-source AI เพื่อใช้โซลูชันที่ปรับขนาดได้และคุ้มค่าการลงทุน
ผลการศึกษาของภาครัฐเผยให้เห็นว่า องค์กรไทยนำ AI มาใช้แล้วไม่ถึง 20% ในขณะที่องค์กรมากกว่า 70% มีแผนที่จะนำมาใช้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่ยังมีอีกมาก ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องนี้สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของตลาดพับลิคคลาวด์ของประเทศไทย ซึ่งคาดไว้ว่าจะเติบโตที่ 23.68% CAGR ในช่วงปี พ.ศ. 2568 ถึง 2573 และมีมูลค่าถึง 8.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี พ.ศ. 2573 โดย Infrastructure as a Service (IaaS) ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 950.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2568 จะเป็นโซลูชันนำในการตอบสนองการขยายตัวดังกล่าว
สร้างรากฐานรองรับการเติบโต
อาลีบาบา ได้เปิดดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในประเทศไทย ที่มาพร้อมโซลูชันต่างๆ มากมาย เมื่อต้นปีนี้ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านดิจิทัลของประเทศ โดยโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์นี้จะช่วยให้ธุรกิจใช้ AI, วิเคราะห์บิ๊กดาต้า, และใช้แอปพลิเคชันเฉพาะทางของแต่ละอุตสาหกรรมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาในการตอบสนอง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือความสามารถในการปรับขนาดการใช้งาน
นอกจากด้านโครงสร้างพื้นฐานแล้ว อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อบ่มเพาะผู้มีความสามารถผ่านโปรแกรมอบรม, การแข่งขันด้าน AI, และแพลตฟอร์มอี-เลิร์นนิงต่างๆ โครงการที่โดดเด่น เช่น “Eye for Thailand” ซึ่งเป็นการจัดการประกวดวิดีโอที่ใช้ AI ในการสร้างสรรค์รายการแรกของอาลีบาบา คลาวด์ โดยให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันใช้ Wan2.1 ซึ่งเป็นโมเดลการที่ใช้สร้างวิดีโอของ ทำการผสมผสานแนวคิดสร้างสรรค์ของคนไทยเข้ากับนวัตกรรม สร้างวิดีโอสั้นส่งเข้าประกวด
มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจากหลากหลายวงการมากกว่า 200 รายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไปจนถึงนักการตลาด การแข่งขันปิดท้ายด้วยการให้ผู้เข้ารอบสุดท้ายได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางเทคนิคในวัน demo day ผู้ชนะรางวัลต่างๆ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า AI สามารถปฏิวัติการเล่าเรื่องได้อย่างไร และเป็นการย้ำให้เห็นว่าสาธารณชนมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีเกิดใหม่มากขึ้น
ขยายประสิทธิภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลก
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญในการใช้คลาวด์ นอกจากดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ในประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ ยังได้ขยายบริการด้านโครงสร้างพื้นฐานในแม็กซิโก เกาหลีใต้ และมาเลเซีย และจะขยายไปยังฟิลิปปินส์ในเดือนตุลาคม ปัจจุบันเครือข่ายทั่วโลกของบริษัทฯ ครอบคลุม availability zones 15 แห่งใน 29 ภูมิภาค ให้บริการคลาวด์ที่ปรับขนาดได้และมีการตอบสนองที่รวดเร็ว (low-latency)
ความเชี่ยวชาญด้านการย้ายเวิร์กโหลดที่มีความซับซ้อน ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในประเทศอินโดนีเซีย โดยอาลีบาบา คลาวด์ ได้สนับสนุนระบบนิเวศดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ให้ GoTo Group สามารถเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพื้นฐานบริการด้านการเงินของบริษัทฯ ไปไว้บนคลาวด์ของอาลีบาบา คลาวด์ ส่งผลให้สามารถให้บริการผู้ใช้หลายล้านคนได้โดยไม่เกิดการหยุดชะงัก (zero downtime) หลังจากย้ายไปอยู่บนอาลีบาบา คลาวด์ GoTo ย้ายแพลตฟอร์มข้อมูลสำคัญทางธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จาก MaxCompute ของอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการลงทุน มีการย้ายข้อมูลหลายสิบเพตะไบต์โดยไม่มีการหยุดชะงักตลอดระยะเวลาหกเดือน โครงการดังกล่าวเน้นให้เห็นความสามารถของบริษัทฯ ในการให้บริการการทรานส์ฟอร์มขนาดใหญ่ที่ยืดหยุ่นให้กับทุกภาคส่วน
ใครๆ ก็ใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยนวัตกรรมโอเพ่นซอร์ส
โมเดลโอเพ่นซอร์สคือกุญแจสำคัญสู่การมีส่วนร่วมในเวลาที่มีการนำ AI มาใช้อย่างรวดเร็ว Qwen3 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่รุ่นล่าสุดของอาลีบาบา มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกทะลุ 12.5 ล้านครั้ง นอกจากนี้ Qwen3 series ไม่ว่าจะเป็นโมเดลที่มีพารามิเตอร์ขนาดเล็ก 0.6B ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Mixture-of-Experts ประสิทธิภาพสูง ยังช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สร้างโซลูชัน AI เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ ภาคการศึกษา และอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ
Qwen สามารถรองรับภาษาที่หลากหลายซึ่งรวมถึงภาษาไทย อีกทั้งชุมชนโอเพ่นซอร์สที่ไม่หยุดนิ่ง ทำให้เกิดความแตกต่าง ทั้งนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้สร้างโมเดลอนุพันธ์ (derivative model) มากกว่า 130,000 โมเดลบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Hugging Face ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ความเก่งกาจของ Qwen การเปิดโอเพ่นซอร์สเครื่องมือเหล่านี้ เป็นการเสริมแกร่งให้สตาร์ทอัพ นักวิจัย และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน AI ต่างๆ ได้
เดินหน้าสู่อนาคตแห่งความร่วมมือ
การใช้คลาวด์ การใช้ AI และการพัฒนาทักษะ มีความสำคัญในลำดับต้นๆ ที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศทำได้อย่างรวดเร็ว อาลีบาบา คลาวด์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแนวทางเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้ เครื่องมือ AI ที่เข้าถึงได้ และการเสริมศักยภาพบุคลากรที่มีความสามารถ
ขณะที่เราขยายฐานการดำเนินงานในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการกำหนดอนาคตดิจิทัลของภูมิภาค ที่ซึ่งนวัตกรรมผสานรวมกับการมีส่วนร่วม และความมุ่งมั่นผสานรวมลงมือปฏิบัติจริง เมื่อร่วมมือกัน เราจะสามารถปลดล็อกโอกาสอันไร้ขีดจำกัดให้กับธุรกิจ ชุมชน และบุคลากรดิจิทัลรุ่นใหม่ของประเทศไทย
บทความโดย นายฌอน หยวน รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคแปซิฟิกใต้ อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์