เส้นทางสู่แชมป์บาริสต้าประเทศไทย 2025 ของ “เจน-กวินนาถ วีระเวท” ไม่ใช่นักล่ารางวัล แค่ใช้เวทีแข่งขันเป็นแพลตฟอร์มพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น
แม้จะชื่นชอบกลิ่นหอมๆ แต่รสชาติที่ขม ทำให้ “เจน-กวินนาถ วีระเวท” ในวัยเด็ก แชมป์จากเวที Thailand National Barista Championship 2025 ไม่เคยคิดก้าวเข้าสู่โลกกาแฟเลย แต่เมื่อได้ทำงานเป็นบาริสต้าตอนเรียนอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย กลับพบว่าเป็นสายงานที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล หลังเรียนจบกลับมาทำงานประจำอยู่ 1 ปี จึงตัดสินใจร่วมกับเพื่อนเปิดร้าน FIKA & CO. Cafe พร้อมลงแข่งขัน Thailand Barista Championship 2023 คว้าแชมป์เป็นตัวแทนประเทศไทยคนแรกที่พาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขัน World Barista Championship 2023 Sime-final
จากแค่อยากพัฒนาตัวเองในครั้งแรก การแข่งขันได้กลายเป็นเส้นทางของ “เจน-กวินนาถ” อย่างแท้จริง โดยหลังกลับจากการแข่งขันระดับโลก ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ได้ลงแข่งในเวทีเดิม Thailand National Barista Championship 2024 คว้ารางวัลรองชนะเลิศติดมือกลับบ้าน และล่าสุดประสบความสำเร็จคว้าแชมป์จากเวที Thailand National Barista Championship 2025 ในงาน Thailand Coffee Fest 2025 เทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การกลับมาลงแข่งในเวทีเดิมเป็นครั้งที่ 3 มีเหตุผลทั้งส่วนตัวและส่วนรวม โดย “เจน-กวินนาถ” อธิบายว่า ช่วงที่ผ่านมา มีโอกาสไปเป็นโค้ชให้กับฟิวเจอร์-กิตติภพ เอ่งฉ้วน Thailand National Barista Champion 2025 เข้าร่วมเเข่งขัน World Barista Championship 2025 และอยากส่งตัวเองให้ไปถึงรอบสุดท้ายในเวทีโลก จากที่เคยพาประเทศไทย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ปีนี้เราอยากไปให้ถึงรอบสุดท้ายให้ได้ นอกจากนี้ยังอยากท้าทายตัวเอง และอัปเดทความรู้ความสามารถของตัวเอง ทำให้ตัดสินใจลงแข่งในครั้งนี้ เพื่อเดินสู่เป้าหมายเวทีระดับโลก
“ไม่ได้อยากล่ารางวัล แค่อยากเป็นคนที่เก่งขึ้น เพราะมองว่าการแข่งขันเป็นแพลตฟอร์มในการพัฒนาตัวเอง ทุกครั้งที่ได้แข่งเราจะมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงในฐานะบาริสต้าทำกาแฟดีขึ้นอย่างเดียว แต่ยังทำให้เป็นคนที่ดีขึ้นด้วย ตอนไปแข่งที่เอเธนส์กดดันและเครียดมาก เพราะอยากทำให้ดี แม้กลับมาแล้วก็ยังรู้สึก ซึ่งการแข่งขันแต่ละครั้งจะให้ประสบการณ์ที่เปลี่ยนไป มีความท้าทายใหม่มาให้ก้าวข้าม อย่างตอนแข่งครั้งแรกพอชนะ เคว้งมาก เรามองไม่เห็นภาพว่าจะไปต่ออย่างไร สิ่งที่ทำคือเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของโค้ช”
การเตรียมตัวแข่งขันบาริสต้าไม่ได้แตกต่างจากกีฬาอื่น นั่นคือ ฝึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มทักษะ ศึกษาเรียนรู้ และทำความเข้าใจทุกเรื่องของกาแฟ รวมถึงการหาแรงบันดาลผ่านการพูดคุยกับผู้คน หรือวงการอื่นๆ ด้วย ซึ่งอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญจะเป็นเรื่องคอนเซ็ปต์ หรือการเล่าเรื่องราวที่สอดรับกับรสชาติที่นำเสนอ จึงต้องวางแผนให้ดี ส่วนความยากที่สุดในการแข่งขันน่าจะเป็นเรื่องของใจ อย่าไปกดดันตัวเองตลอดเวลา โดยในการแข่งขันแต่ละครั้งก็จะมีเรื่องกดดันใหม่ๆ เข้ามาตลอด
“แม้จะเหนื่อยถ้าใจเราอยู่กับกาแฟก็จะมีแรงทำ มองว่าความกดดันเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการแข่งขัน แต่ละปีจะได้เรียนรู้เรื่องราวที่แตกต่างกันไป ทำให้ได้พัฒนาตลอดเวลา และเป็นความท้าทายที่เราอยากเอาชนะ อยากก้าวข้ามไปให้ได้ จนกลายเป็นเรื่องหลักที่เราโฟกัส ซึ่งลงแข่งครั้งนี้มีความคาดหวังเรื่องรางวัล ทำให้รู้สึกกดดัน แต่พยายามทำให้ได้เหมือนซ้อมมากที่สุด มองว่าจุดเด่นที่ทำให้ชนะน่าจะเป็นความเข้าใจในตัวเอง รวมถึงสิ่งที่กำลังทำและสื่อสารได้ตามคอนเซ็ปต์สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ และทำให้อุตสาหกรรมไปต่อได้”
“เจน-กวินนาถ” มองว่า ในวันนี้วงการกาแฟไทยพัฒนาไปเยอะมาก ยกระดับขึ้นมาอยู่ในจุดที่เทียบชั้นกับกาแฟต่างชาติได้แล้ว ซึ่งการมีเวทีแข่งขันและการที่มีคนไทยเก่งๆ ในสายงานกาแฟจนไปคว้าแชมป์จากเวทีระดับโลกมาได้ จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้วงการนี้น่าสนใจมากขึ้น ขับเคลื่อนให้วงการกาแฟขยายใหญ่ขึ้น
“ความสำเร็จบนเส้นทางสายกาแฟของเจนคือ การได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และทำอย่างมีความสุข พร้อมส่งต่อความสุขให้กับคนอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ ที่อยากทำงานในวงการกาแฟหรือคนกิน ซึ่งการมีร้านกาแฟถือเป็นเป้าหมายที่เราเดินมาถึงแล้ว ตอนนี้ต้องการแค่ให้น้องๆ ที่เลือกสายอาชีพนี้ได้ยืนหยัดทำในสิ่งที่ชอบและสามารถเลี้ยงชีวิตตัวเองได้”