ทีทีบี เสริมพลังผู้นำธุรกิจครอบครัว ยกระดับการวางแผนการบริหารความมั่งคั่งสู่ความยั่งยืน ด้วยหลักสูตร “Wealth Empowerment Program 2025”
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ร่วมกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดประสบการณ์บริหารธุรกิจครอบครัวและ Family Wealth แนะกลยุทธ์การวางแผนการเงินการลงทุนสำหรับครอบครัว การวางแผนมรดก และการส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น ด้วย 2 หัวข้อเจาะลึกการวางแผนการเงินการลงทุนเพื่อตอบโจทย์การต่อยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลและเพื่อวางแผนให้ครอบครัว ในโครงการอบรมพิเศษ “Wealth Empowerment Program 2025” สำหรับกลุ่มลูกค้า Wealth เพื่อยกระดับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจ เสริมสร้างเครือข่ายคุณภาพ พร้อมส่งเสริมความเป็นผู้นำและการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการอบรมเป็นไปอย่างเข้มข้น ตลอดทั้ง 8 สัปดาห์
สำหรับการอบรมในสัปดาห์ที่ 6 นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้ากลุ่มลูกค้าธนบดีธนกิจ ทีเอ็มบีธนชาต เป็นวิทยากรหัวข้อ Family Wealth Transfer ในหลักสูตรพิเศษ “Wealth Empowerment Program 2025” โดยหัวข้อนี้เน้นการวางแผนการเงินอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออมและการลงทุนด้วยเงินสกุลต่างประเทศที่มีลักษณะผลตอบแทนแตกต่างกัน และการปลูกฝังแนวคิดเรื่องการออมและการลงทุนให้ทายาทธุรกิจตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีประสบการณ์ในการบริหารเงินตั้งแต่อายุน้อยและมีมุมมองที่กว้างไกลในการต่อยอดความมั่งคั่งต่อไปในอนาคต พร้อมแนะนำแนวคิด Monetize (การสร้างรายได้) แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์หรือบริการ สามารถต่อยอดเป็นรายได้ให้เพิ่มพูนขึ้น หากมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเหมาะสม โดยใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างชาญฉลาด ทั้งยังชวนตั้งคำถามกับตัวเองว่า ได้ตั้งโจทย์ชีวิตเพื่อที่จะวางแผนให้กับตัวเองและครอบครัวแล้วหรือยัง เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่งหากเริ่มวางแผนได้เร็วก็มีโอกาสต่อยอดได้มากขึ้น
สำหรับการอบรมในช่วงสัปดาห์ที่ 7 ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุนจาก 3 ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์การลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต ได้แก่ นายอภิวัฒน์ น้าประทานสุข ที่นำเสนอ ttb Investment Outlook 2025 พร้อมเปิดมุมมองว่าแม้ตลาดการเงินโลกยังมีความผันผวน แต่ภาพรวมการลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้นยังคงมีทิศทางเชิงบวก ซึ่งคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นโลกจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้เป็นปีที่สาม และเป็นการปรับขึ้นได้ดีในฝั่งของตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market) และตลาดเกิดใหม่บางตลาด (Emerging Market) โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจที่เป็นไปด้วยดี ดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มเป็นขาลง เอื้อต่อการทำกำไรของภาคธุรกิจ จากนั้น นายศรายุทธ แก้วเกษ นำเสนอการตั้งเป้าหมายทางการเงินด้วยหลัก SMART ซึ่งต้องชัดเจน วัดผลได้ ทำได้จริง และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน พร้อมแนะนำ Roadmap และแนวทางการจัดพอร์ตเพื่อบริหารความเสี่ยง และตอบโจทย์เป้าหมายการเงินในทุกช่วงชีวิตอย่างยั่งยืน ปิดท้ายด้วย นางสาวชญานุตม์ เหมือนเดช ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งรูปแบบที่คุ้นเคย และผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ธนาคารออกแบบและคัดสรรมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการคว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี สอดคล้องกับภาวะตลาดการเงินการลงทุน ตลอดจนตอบโจทย์การลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ภายใต้เป้าหมายการมีสุขภาพการเงินที่ดีไปพร้อมกัน
โดยช่วงท้ายของการอบรมได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์วางแผนการเงินการลงทุนร่วมกับวิทยากรอย่างเต็มที่ พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการวางแผนการเงินการลงทุนส่วนบุคคลเพื่อให้ได้โซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลและเฉพาะครอบครัวของผู้เข้าร่วมโครงการ
ทีทีบี มุ่งมั่นในการเป็นพาร์ตเนอร์ทางการเงินที่พร้อมเสริมศักยภาพของลูกค้าอย่างแท้จริง เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีในวันนี้และอนาคต