PROEN เคาะราคา IPO หุ้นละ 3.25 บาท เปิดขาย 21-23 เม.ย.นี้ อานิสงส์โควิดหนุนรายได้โต

PROEN เร่งขยายธุรกิจ รับอานิสงส์โควิด-19 หนุนธุรกิจ ICT เติบโตก้าวกระโดด พร้อมขาย 86 ล้านหุ้น เคาะราคา IPO หุ้นละ 3.25 บาท เปิดจองระหว่างวันที่ 21-23 เม.ย. ลุ้นเข้าเทรดตลาด mai 29 เม.ย. นี้  

นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทโปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN ระบุว่า ได้กำหนดราคาหุ้นที่จะออกและเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 86 ล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ที่ระดับราคา 3.25 บาทต่อหุ้น โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน และคาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 29 เมษายน 2564 ในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งราคา IPO ดังกล่าวมีค่า P/E  ที่เท่า 30

“เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันในตลาด mai ถือเป็นราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ มีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในธุรกิจ E- Commerce และ Game ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทุกอุตสาหกรรมมีการปรับตัวให้ความสำคัญด้าน ICT และเทคโนโลยี PROEN จึงขยายตัวได้อย่างโดดเด่น”

การขายหุ้นครั้งนี้มีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซียพลัส  จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน  และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 แห่ง คือ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รายได้ของ PROEN ในปีนี้ จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจาก 3 ปีย้อนหลัง มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20% โดยในปี2563ที่ผ่านมามีรายได้ 1,005 ล้านบาท รวมทั้งจะรักษาการทำกำไรขั้นต้นได้ที่ 16% เนื่องจากในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ธุรกิจให้บริการศูนย์ Internet Data Center (IDC) มีลูกค้าเข้าใช้บริการจำนวนมากส่งผลให้ อัตราการใช้งานอยู่ที่ 90% ของจำนวนตู้ที่มีในปัจจุบัน 645 ตู้ บริษัทจึงมีแผนจะทยอยใช้เงิน 150 ล้านบาท จากเม็ดเงินรวมที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 280 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารศูนย์  IDC แห่งใหม่ มีพื้นที่อาคารรวม 7,452 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์ IDC 3,000 ตารางเมตร สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอีก 1,000 ตู้ ใช้เวลาก่อสร้าง12 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565

ส่วนเม็ดเงินที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจให้บริการ ICT และงานรับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนชำระคืนเงินกู้ ทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันที่สูงกว่า 3 .4 เท่า ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทยังมีแผนจะขยายบริการ Cloud และรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่รอส่งมอบ (Backlog) รวม 334 ล้านบาท เช่น งานก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนศรีอยุธยาและถนนพระรามที่ 6, ก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซอยสุขุมวิท 39 และงานปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีไฟฟ้า จำนวน14 สถานี

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 PROEN มีสัดส่วนรายได้มาจาก 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย รายได้จากการขาย 34% รายได้จากการให้บริการ 26% และรายได้จากสัญญาก่อสร้าง 40% ทั้งนี้ จุดเด่นที่น่าสนใจของธุรกิจคือ ปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีการปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์ ซึ่งส่งผลดีต่อการให้บริการ Internet Data Center บริการอินเตอร์เน็ต ISP และบริการ Cloud โดยไตรมาส 1/64 ลูกค้ามีการสั่งตู้ Server แล้ว 60 ตู้ และที่แนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง

“ภายหลังการเข้าระดมทุนในตลาด mai แล้ว จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัท มีความแข็งแกร่ง ต้นทุนทางการเงินลดลง เพิ่มศักยภาพในการรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมทั้งยกระดับชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ เพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต จึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน โดยหวังว่าหุ้นPOREN จะมีคุณสมบัติเป็นทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ได้อย่างแน่นอน” นายกิตติพันธ์กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลัง IPO สัดส่วนการถือหุ้นของครอบครัวศรีบัวเอี่ยมจะลดลงเหลือ 72.5% จากเดิม 99.7% ที่เหลือเป็นผู้บริหารของกลุ่มบริษัท 0.3% และประชาชนทั่วไป 27.2% ขณะที่บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ